ประธานวุฒิสภาให้การรับรองนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (Samdech Moha Borvor Thipadei HUN MANET) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศึกษา นายคำนูณ สิทธิสมาน ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และนางสาวณัชฐานันท์ รูปขจร ที่ปรึกษาประธานวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง
.
ประธานวุฒิสภา กล่าวให้การต้อนรับและแสดงความยินดีที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะมั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวว่ารัฐสภาไทยประกอบด้วยสองสภาเช่นเดียวกับรัฐสภากัมพูชา คือ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสภาไทยมีหน้าที่หลักในการกลั่นกรองร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปอย่างรอบคอบและถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้ร่างกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้กับประชาชนทั่วไปเป็นกฎหมายที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล วุฒิสภายืนยันความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติเพื่อนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่รัฐสภาไทย ประเทศชาติและประชาชน ในส่วนของความสัมพันธ์ด้านรัฐสภาระดับทวิภาคี มีโอกาสได้ให้การรับรองสมเด็จอัคคมหาพญาจักรี เฮง สัมริน ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภา เมื่อปี พ.ศ. 2561 ส่วนในระดับพหุภาคี สมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในเวทีการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ ในประเด็นท้าทายต่าง ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหาร เศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาที่ยั่งยืน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ทั้งนี้
วุฒิสภาไทยพร้อมที่จะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายกัมพูชาในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมในทุกระดับ เพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศและประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งขอแสดงความยินดีไปยังสมเด็จมหารัฐสภาธิการบดีควน โซะดารี ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และขอฝากความระลึกถึงไปยังสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโซ ฮุน เซน ด้วย
.
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวขอบคุณวุฒิสภาไทยที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เชื่อมั่นว่าการเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเมื่อช่วงเช้าได้พบและหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 5 ฉบับ ซึ่งการเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้มีคณะรัฐมนตรีของราชอาณาจักรกัมพูชาร่วมเดินทางมาด้วย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความสำคัญยิ่งต่อกัมพูชา นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการยกระดับความร่วมมือด้านการค้าระหว่างสองประเทศ และพัฒนากลไกเพื่อขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ อาทิ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และด้านความร่วมมือผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Commission : JTC) และการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee : JBC) โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนฝ่ายกัมพูชาในทุกด้าน โดยเฉพาะแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย การให้ทุนการศึกษาและอบรมต่าง ๆ หวังว่าความร่วมมือในด้านการศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลกัมพูชาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน