7 ตุลาคม 67 ที่ห้องประชุมตาปี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมการเตรียมเส้นทางการจราจร ในการเคลื่อนขบวนแห่เรือพนมพระทางบก ประจำปี 2567 โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี พันตำรวจเอกกฤดินิธิ ทองทิพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน นายกล้าณรงค์ ยุติธรรม หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ่าเอกพิรพร อุลิตผล วัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พันตำรวจเอกนิพนธ์ ชาตรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งไม่เปิดให้สื่อมวลชน หรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฟัง
นายนันธวัช เจริญวรรณ กล่าวว่า การจัดงานชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว ถือเป็นงานประจำปี เป็นงานของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ ไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งแต่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ต้องหารือกันให้เป็นข้อสรุป เพื่อให้สามารถจัดงานได้อย่างราบรื่น สวยงาม และยิ่งใหญ่ โดยผู้บริหารของจังหวัด คือ รองผู้ว่าฯ ทั้ง 3 คน ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการหารือแนวทางที่จะขับเคลื่อนการจัดงานครั้งนี้ให้ลุล่วง จากนั้น ได้ให้ทางตำรวจได้ชี้แจง การวิเคราะห์เส้นทางชักลากเรือพนมพระทางบก ที่ อบจ. และ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กำหนด เพื่อดูความเหมาะสมและผลกระทบ
ด้านผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางตำรวจไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะมีขบวน 2 เส้นทาง เพราะจะเกิดผลกระทบหนักกับการจราจรทั้งเมืองสุราษฎร์ธานี ส่วนจะเลือกเส้นทางใด ทางตำรวจยืนยันจะให้ความร่วมมือบริหารจัดการให้ผ่านไปได้ แต่ก็เป็นห่วงถึงความเหมาะสมของเส้นทางที่ อบจ. ออกแบบ เพราะจะส่งผลกระทบต่อถนนตลาด และผู้ใช้สะพานศรีตาปี ข้ามไปฝั่งบางใบไม้
ด้านนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ขบวนเรือพนมพระของเทศบาล มีความล่าช้า ทั้งการโชว์และพิธีเปิด บริเวณเวทีข้างวัดธรรมบูชา ทำให้ขบวนของ อบจ.จากหน้าศาลากลางเคลื่อนไปไม่ได้ ต้องรอนาน 2 – 3 ชั่วโมง อีกทั้ง หัวขบวนของ อบจ. เป็นขบวนแห่ ถ้วยพระราชทาน จึง ไม่อยากให้ไปต่อท้าย เทศบาล เกรงจะไม่สวยงาม สมพระเกียรติ และมีชาวบ้านที่มาจากทั่วจังหวัดนับหมื่นคน ที่ต้องรอนาน จึงเป็นที่มาของการปรับเส้นทางเพื่อให้รวดเร็วขึ้น
ด้านนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี ยืนยันว่า ทางเทศบาลฯ ได้เตรียมปรับลดการแสดง และกระชับเวลาพิธีเปิดให้เร็วขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อ อบจ. แต่ทาง อบจ. รวมถึงผู้เข้าร่วมประชุม เกรงว่า การกำกับดูแลคนจำนวนมากให้กระชับเวลา อาจมีอุปสรรคที่ควบคุมไม่ได้ จึงขอให้เทศบาลฯ ได้ปรับที่จอดเรือพนมพระทางบก ทั้ง 6 ลำและรถต้นเทียน 1 ลำ ไปเริ่มขบวนจาก แยกการุณราษฎร์ ท้ายแถวถอยมาทางแยกแสงเพชร และให้เคลื่อนขบวนแต่เช้า เพื่อให้พิธีเปิด รวมถึง การโชว์เสร็จสิ้น ก่อนเวลา 09.00 น. สามารถเว้นระยะห่างให้หัวขบวนของ อบจ. ผ่านเส้นทางเดียวกันได้สะดวก และมีความสวยงาม ซึ่งนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี ยืนยันว่า หากเป็นมติที่ประชุม และเป็นข้อสั่งการของจังหวัดก็ยินดีปฏิบัติตาม โดยขอให้มีการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อยืนยันกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบตลอดเส้นทาง ซึ่งนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ยินดี ที่จะร่วมกับนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางดังกล่าวให้ประชาชนเข้าใจ พร้อมทั้งรับปากกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าจะบริหารจัดการร่วมกับเทศบาลให้ขบวนโชว์ เส้นสิ้นทันกำหนดเวลาไม่ให้เกิดการติดขัดของขบวน อบจ. พร้อมทั้งย้ำว่า หากรองผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 3 คน มาร่วมกันบริหารจัดการขนาดนี้ งานจะต้องผ่านไปอย่างเรียบร้อย และยิ่งใหญ่สมกับงานระดับประเทศอย่างแน่นอน
ด้านตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ จะให้ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รีบออกแบบเส้นทางเลี่ยง และผังการเดินรถ ทั้งหมดเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนโดยเร็วพร้อมทั้งฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันเผยแพร่อีกแรง
