Reporter&Thai Army

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กกล.รส.จว.พ.จ. จังหวัดพิจิตรแถลงจุดยืนพร้อม กล่าวกับสื่อมวลชนสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้แถลงข่าว ภารกิจสำคัญ และจุดยืนของ กองทัพภาคที่ 3 ต่อสื่อมวลชน

วันที่ 7 เวลา 11.30 น. พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กกล.รส.จว.พ.จ. จังหวัดพิจิตรแถลงจุดยืนพร้อม กล่าวกับสื่อมวลชนสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้แถลงข่าว ภารกิจสำคัญ และจุดยืนของ กองทัพภาคที่ 3 ต่อสื่อมวลชน

ทีหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ใจความว่า กองทัพภาคที่ 3 จะดำรงไว้ซึ่งอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพภาคที่ 3 เป็นองค์กรทหารอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความพร้อม ในการช่วยเหลือประเทศชาติ และประชาชน ในยามวิกฤตทุกเหตุการณ์ โดยจะเห็นได้จากการปราบปรามยาเสพติด การแก้ไขปัญหาน้ำท้วม ภัยแล้ง ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ในพื้นที 9 จังหวัดภาคเหนือ เป็นต้น กองทัพภาคที่ 3 ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่าน ได้ร่วมกันสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ร่วมรับรู้ข่าวสาร ด้วยการไตรตรอง มีสติ มีวิจารณญาณ บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบสุขร่วมกันในสังคมไทย กองภาคทัพที่ 3 จะเทิดทูนและดำรงไว้ซึ่ง พระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนทุกท่าน ได้ร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่มีคุณูปการต่อสังคมไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากภารกิจ ในการป้องกันประเทศ การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน การแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการสร้างความปรองดองแล้ว ท่านแม่ทัพภาคที่ 3 มีความห่วงใยต่อการรับรู้ ข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งมีอิทธิพลต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสื่อที่มีการโจมตีให้ร้าย การบิดเบือนข้อเท็จจริง เช่น การลงชื่อถอดถอนผู้นำหน่วยงานล้วนแต่จะนำไปสู่ ความแตกแยกของสังคม ซึ่งข้อเท็จจริงมันมีระบบ ระเบียบ และแนวทางปฎิบัติอยู่แล้ว จึงอยากให้พี่น้องสื่อมวลชน เป็นสื่อกลางนำเสนอต่อสังคมในภาพรวมหลาย ๆ ด้าน ระมัดระวังเรื่องการบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยในส่วนของ มณฑลทหารบกที่ 36 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรง จะยึดถือตามคำสั่ง นโยบาย และจุดยืนของ กองทัพภาคที่ 3 ที่แถลงไว้ทั้ง 4 ข้อ อย่างเคร่งครัด สำหรับการปฎิบัติภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่ จังหวัดพิจิตร ในห้วงที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวพิจิตรเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล การปฎิบัติภารกิจโครงการจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ การร่วมสร้างฝายชะลอน้ำ ตามโครงการ 1 ตำบล 1 ฝายมีชีวิต เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดพิจิตร การซ่อมแซมสร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้ การแก้ปัญหายาเสพติด และอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก ในนามของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดพิจิตร ขอขอบคุณ ทุกภาคส่วนตลอดจน ประชาชนชาวพิจิตรไว้ ณ โอกาสนี้ และประการสำคัญ ในห้วงเดือน เมษายน ถึงเดือน พฤษภาคม นี้ ประเทศไทยของเราจะมีงานสำคัญ คืองานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทร์เทพยวรางกูร เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ ในรัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะมีการประกอบพระราชพิธี ฯพร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนของ จังหวัดพิจิตร จะมีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำน้ำอภิเษก ตั้งแต่วันที่ 6 – 8 และวันที่ 9 เมษายน ณ วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ต่อเนื่องไปจนถึงวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในห้วง วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 จึงขอเชิญชวนพี้น้องชาวพิจิตรที่เคารพ ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์แห่งความจงรักภักดี ต่อสถาบันอันที่เคารพสูงสุด ซึ่งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดพิจิตร ได้รับมอบหมาย ให้มาทำความเข้าใจต่อพี่น้องสื่อมวลชน ซึ่งคิดว่าสื่อมวลชนทุกท่านมีความเข้าใจอยู่แล้ว แต่มีบางส่วน โดยเฉพาะน้อง ๆ เด็กรุ่นใหม่ ที่ยังไม่เข้าใจ และไม่นึกถึงความเป็นจริงของสังคม ของประเทศชาติ ในความเป็นตัวตน ความมีประวัติศาสตร์ จึงขอฝากพี่น้องสื่อมวลชน ช่วยเป็นสื่อกลาง ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้รับรู้ข่าวสาร เข้าใจจุดยืนที่สำคัญของกองทัพ ที่จะดำรงไว้ซึ่งอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นกพิราบศูนย์ข่าวพิจิตร ///// ภาพข่าว