แกนนำชาวบ้านแฉคนบงการแผ้วถางป่าบ้านแม่แมะ ส่งคนเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้เลิกต้านอ้างจะทำสวนสมุนไพรเพื่อชุมชน
กรณีกลุ่มชาวบ้านแม่แมะ หมู่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวมตัวร้องเรียนว่ามีกลุ่มคนเข้าแผ้วถางตัดต้นไม้เขตพื้นที่ป่าที่ขอไปถึงนายกรัฐมนตรีจะทำเป็นป่าชุมชนพื้นที่จำนวน 16 กว่าไร่ ให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เพื่อใช้ร่วมกันระหว่างชุมชนและเพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ แต่ผู้มาแผ้วถางอ้างเช่าจากราชพัสดุแบ่งเป็นหลายแปลงเตรียมสร้างบ้านพักตากอากาศจึงได้มีการรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อต่อต้านถึงที่สุด ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวันที่ 7 ก.พ.นี้ ชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่แมะ หมู่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยังคงจัดเวรยามคอยดูแลพื้นที่บริเวณป่าบ้านแม่แมะที่ถูกแผ้วถางปรับพื้นที่ เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาตัดทำลายต้นไม้เพิ่มอีก ซึ่งทั้งช่วงเช้าและบ่ายยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ แต่ปรากฎว่าในไลน์กลุ่มของหมู่บ้าน มีการออกมาชี้แจงว่าพื้นที่บริเวณที่มีคนเข้าไปแผ้วถางได้มีการเช่าจากกรมธนารักษ์ไปแล้ว และจะทำเป็นสวนสมุนไพร เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาใช้ร่วมกันในอนาคต
ในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามไปยังนายแก้ว ศรีหมอก อดีตผู้ใหญ่บ้านแม่แมะ ที่เป็นแกนนำในการต่อต้านไม่ให้มีการเข้ามาแผ้วถางป่าในพื้นที่ป่าแม่แมะ โดยนายแก้วได้เผยว่า ในขณะนี้ได้ร่วมกันกับชาวบ้านเฝ้าระวังไม่ให้มีการแผ้วถางป่า ซึ่งก็ยังไม่มีใครเข้ามาในพื้นที่ แต่ก็เริ่มมีการออกข่าวทางโชเชียลในกลุ่มชาวบ้านว่า ที่บริเวณป่าที่มีการแผ้วถางเป็นที่มีผู้เช่าจากกรมธนารักษ์แล้วอย่างถูกต้องและจะทำเป็นสวนสมุนไพรเพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาใช้ร่วมกัน ซึ่งตนได้ข้อความนี้และรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวในเรื่องนี้ หากจะทำเป็นสวนสมุนไพรใช้ร่วมกันกับชาวบ้าน ก็ต้องมาพูดคุย หรือจัดประชุมกัน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีความมั่นใจว่าจะทำจริง เพราะที่ผ่านมาที่ชาวบ้านร่วมต้านมา มีการแบ่งพื้นที่แห่งนี้เป็น 40 กว่าแปลงเพื่อขายเป็นบ้านพักเป็นหลังๆ แต่เมื่อชาวบ้านต่อต้านเพราะเห็นว่าจะเหมือนหมู่บ้านป่าแหว่งในพื้นที่ราชพัสดุติดเขตอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ- ปุย ที่เคยมีปัญหา กลุ่มที่เข้ามาจึงล่าถอยออกไป และมีกลุ่มใหม่กลับเข้ามาอีก
นายแก้ว ศรีหมอก เผยว่า เรื่องนี้ได้เคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่ทราบว่าเรื่องถูกตีกลับมาที่กรมธนารักษ์ ในเรื่องนี้ทางชาวบ้านในพื้นที่จึงเข้าชื่อกันกว่า 40 รายชื่อ และได้ร่างหนังสือเสร็จแล้ว เตรียมจะส่งไปยังอธิบดีกรมธนารักษ์อีกครั้ง ก็ขอบอกว่าใครที่จะเช่าพื้นที่บริเวณนี้ และสร้างอะไรชาวบ้านก็รู้กันดี หากเราไม่สามารถปกป้องพื้นที่แห่งนี้ไว้ได้ ต่อไปพื้นที่ป่าบ้านแม่แมะ อีกหลายแห่งก็จะถูกเข้ากระทำการแผ้วถางอีก ชาวบ้านต้องการป่าชุมชน ไม่ใช่หมู่บ้านพักตากอากาศหรูที่เกิดขึ้นหลายแห่งในเขตป่าที่เห็นดาดดื่นในเวลานี้.
