ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า ลงพื้นติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดแพร่ พบค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากมีการชิงเผาพื้นที่เกษตรก่อนเข้าสู่ช่วงวิกฤติหมอกควันห้ามเผาโดยเด็ดขาดระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายนนี้ ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปรับแผนการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์พลตรี เกษม วังสุนทร ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า ลงพื้นที่ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่กับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลางจังหวัดแพร่
ผช.ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามรับทราบปัญหาและอุปสรรคของพื้นที่แต่ละจังหวัด เนื่องจากท่านแม่ทัพภาคที่ 3 และแม่ทัพน้อยที่ 3 มีความห่วงใยต่อสถานการณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ว่าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งใน 9 จังหวัด ต่างมีความตั้งใจและทุ่มเทการทำงานเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพอากาศที่ดี แต่ในปีนี้มีการนำเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 เข้ามาเป็นตัวชี้วัด ประกอบกับมีกระแสข่าวของ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงเกิดการตื่นตัวในพื้นที่อย่างมาก
โดยทุกจังหวัดมีแผนปฏิบัติการที่ละเอียดรอบคอบดีอยู่แล้ว ในการตรวจติดตามครั้งนี้จึงมาดูว่าการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามแผนหรือไม่ และมีการปรับแผนหรือดำเนินการให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทันท่วงทีหรือหรือไม่ เพื่อนำเรียนให้กับผู้บังคับบัญชาได้รับทราบและร่วมหาทางแก้ำขหรือสนับสนุน
ด้าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบสถิติการเกิดจุดความร้อนจากการเผาในปีนี้ยังน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ที่ทำให้ปริมาณ PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานเนื่องจากมีการชิงเผาในพื้นที่เกษตรก่อนถึงช่วงวิกฤติหมอกควันที่มีประกาศของจังหวัด ห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2562 จึงทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีการสะสม แต่ PM 10 ที่เคยใช้เป็นตัวชี้วัดในการดำเนินงานปีที่ผ่านๆ มายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนฝุ่นละอองจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือยานยนต์ในพื้นที่ไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้ค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จังหวัดแพร่ได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานโดยมีการออกประกาศห้ามเผาทุกพื้นที่โดยมีผลในทันที พร้อมประกาศปิดป่าแม่เติ้ก ป่าแม่ถาง และป่าแม่คำปองเขตติดต่ออำเภอร้องหกวางและอำเภอเมืองแพร่ ที่ตรวจพบจุดความร้อนจากการเผาเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ห้ามบุคคลใดเข้าไปกระทำการใดๆ โดยเด็ดขาด