แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นประธานพิธีรำลึกถึงวีรกรรมและเชิดชูเกียรติเหล่านักรบผู้กล้า ที่ได้เสียสละชีวิตและร่างกาย เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 พันโท สามารถ กิตติ์โสภณวรานนท์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 ในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำกำลังพลร่วมประกอบพิธีสดุดีวีรกรรมผู้เสียสละเนื่องในวันระลึกถึงวีรกรรมผู้เสียสละ ซึ่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน ของทุกปี เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตวที เชิดชูเกียรติ และร่วมรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่านักรบผู้กล้า ที่ได้เสียสละชีวิตและร่างกาย เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งมูลนิธิผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช จัดเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณลานผู้กล้า อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช อําเภอเมืองเชียงราย โดยมี พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา พร้อมกล่าวคำสดุดีวีรกรรมผู้เสียสละเบื้องหน้าอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ โดยมี พลเอก ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม , พันเอก สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 , ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย หน่วย ทหาร หัวหน้าส่วนราชการ ชมรมแม่บ้านทหารบก สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน ทายาทผู้เสียสละและประชาชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวคำสดุดีอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ในโอกาสนี้ว่า อนุสาวรีย์ผู้เสียสละแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาและความร่วมมือร่วมใจของข้าราชการพลเรือน ตำรวจทหาร ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของผู้เสียสละอย่างกล้าหาญและคุณงามความดีของผู้กล้าเหล่านั้น ทหารหาญในค่ายเม็งรายมหาราช มีเกียรติประวัติในการรบอย่างน่าสรรเสริญได้เคยปฏิบัติภารกิจในการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์และป้องกันอธิปไตยของชาติในหลายสมรภูมิ เช่น สมรภูมิดอยยาว ดอยผาหม่น อำเภอเทิง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย สมรภูมิดอยผาจิ ผาวัว อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และสมรภูมิเขาค้อ เขาหญ้า อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งหลายท่านได้สละชีวิตเป็นชาติพลี หลายท่านบาดเจ็บ พิการทุพพลภาพจากการเสียสละของนักรบผู้กล้าเหล่านั้น ยังผลให้เกิดความสงบสุขในประเทศ ทำให้พวกเราได้มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายตราบจนทุกวันนี้ การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของนักรบผู้กล้าเหล่านั้นได้จารึกไว้ไม่ดับสูญ โดยอัฐิของผู้กล้าส่วนหนึ่งได้บรรจุอยู่ใต้ฐานของอนุสาวรีย์ผู้เสียสละแห่งนี้ พวกเราขอปฏิญาณว่าจะสืบทอดวีรกรรมของท่านทั้งหลาย จะพิทักษ์รักษาแผ่นดินนี้ไว้ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต จะกระทำทุกวิถีทางในการที่จะรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณของทหารให้เป็นที่ปรากฏเชิดชูของประชาชนชาวไทยตลอดไป
จากนั้น ประธานพิธี ได้มอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดา ของผู้เสียสละ เพื่อส่งเสริมการศึกษาและเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียสละ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายปรมัตถ์ โจลัตสาห์กุล ปัจจุบันศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ เป็นบุตรร้อยโท ยุทธการ โจลัตสาห์กุล สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 7 ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาดเหนือเข่า ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่คอยยาว – ดอยผาหม่น อำเภอเทิง จังหวัดเซียงราย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2521 และนายจิรพันธ์ ทรายตัน ปัจจุบันศึกษาอยู่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 2 คณะคหกรรม แผนกวิชาอาหารและโภชนาการ เป็นบุตรร้อยโท พัฒน์ ทรายตัน สังกัดกองพันเสนารักษ์ กรมผสมที่ 7 ได้รับบาดเจ็บขาขวาขาดใต้เข่า ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2515
อนุสาวรีย์ผู้เสียสละแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อวันอังคารที่ 5 กันยายน พุทธศักราช 2521 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความกล้าหาญ และความเสียสละ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ของบรรดาทหารหาญ แห่งกองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 7 ค่ายเม็งรายมหาราช ในการออกปฏิบัติราชการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่พุทธศักราช 2510 เป็นต้นมา