ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จับเข่าคุยกับอำเภอที่ยังเกิดจุด Hotspot จำนวนมาก ย้ำ การบูรณาการ
คือหัวใจสำคัญ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ได้ภายใน 7 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
บ่ายวันนี้ (6 เม.ย.62) นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมด่วนกับอำเภอที่เกิดจุด Hotspot เพิ่มขึ้น โดยเป็นการประชุมทางไกลกับอำเภอพร้าว อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แจ่ม และอำเภอแม่แตง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟป่า ซึ่งเช้าวันนี้ดาวเทียมเวียร์พบจุด Hotspot ที่จังหวัดเชียงใหม่ 120 จุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้สอบถามถึงสาเหตุของไฟป่าที่เกิดขึ้น และเร่งรัดให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นผลภายใน 7 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ
ทั้งนี้ ช่วงเช้า นายศุภชัยฯ ได้สั่งการนายอำเภอที่เกิดจุด Hotspot จำนวนมาก ให้ไปพูดคุยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หาสาเหตุที่เกิดขึ้น และต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาช่วยอำเภอแก้ปัญหาและป้องกันไฟป่า ขณะนี้มีเวลาเหลือไม่กี่วันจะครบกำหนด 7 วัน ขอให้นายอำเภอทุ่มเทและประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุดปฏิบัติการที่ส่งลงไปในพื้นที่เป็นชุดที่มีความพร้อม ขอให้ประสานและร่วมมือกันอย่างจริงจัง รวมทั้งใช้กำลังในพื้นที่ ท้องถิ่น ท้องที่ อปพร.ซึ่งมีอยู่ประมาณ 8,000 คน รวมทั้ง ชุมชน หรือแม้แต่จิตอาสาเราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ซึ่งพร้อมที่จะร่วมปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ ฝ่ายทหารก็เข้ามาสนับสนุนและทุ่มเทกับภารกิจนี้ นำเฮลิคอปเตอร์บินดับไฟป่า รวมทั้งมีกำลังพลเข้าสนับสนุนตลอดเวลา ขอให้หน่วยในพื้นราบเข้าไปช่วยกันและดำเนินการอย่างจริงจัง เชื่อว่าปัญหาจะยุติลงได้ หากมีปัญหาในเรื่องใดขอให้แจ้งมา ตนเองพร้อมสนับสนุนทุกเรื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวย้ำว่า ถ้านายอำเภอล้มเหลวง ผู้ว่าฯ ก็ล้มเหลวด้วย ขอให้ดึงทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม นายอำเภอต้องบูรณาการการทำงานและแสวงหาความร่วมมือให้เกิดผลสำเร็จ ขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่สู้รบกับปัญหา ถ้าเราพร้อมและมียุทธวิธีที่ดี เราจะรบชนะ และวันที่ 9 เมษายนนี้ จะครบ 7 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าจุด Hotspot ต้องเป็นศูนย์ และค่า PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้นทุกอำเภอต้องดำเนินการให้เห็นผลสำเร็จ สำหรับอำเภอใดที่ดูแลพื้นที่ได้ดีก็ขอเป็นกำลังใจ และขอให้ดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป
Cr. สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่