“สว.สุวรรณี” ร่วมอภิปรายในการประชุมผู้นำสตรีทางการเมือง
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 12.00 – 13.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้รับเชิญเป็นผู้ร่วมอภิปรายในหัวข้อ “การส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือของผู้นำสตรีต่างรุ่น” ในการประชุมผู้นำสตรีทางการเมืองผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยอภิปรายร่วมกับ H.E. Vicky Singmin เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำอาเซียน และ Hon. PhD. Chansoda Phonethip สมาชิกสภาแห่งชาติและรองประธานสหพันธ์สตรีลาว โดยมี Ms. Putri Maha Lima รองเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
.
ในการประชุมดังกล่าว นางสุวรรณี ร่วมอภิปรายถึงความร่วมมือระหว่างสหภาพรัฐสภา (IPU) และสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรี จำนวนสมาชิกรัฐสภาสตรีในรัฐสภาไทย การเอาชนะความท้าทายจากประเด็นการเคารพผู้อาวุโส และประเด็นคนรุ่นใหม่มีประสบการณ์น้อยที่ทำได้โดยการให้โอกาสและสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของผู้นำสตรีรุ่นใหม่ในชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีไทยจากทั้งสองสภา ซึ่งทำงานร่วมกันในการส่งเสริมบทบาทและเสริมสร้างศักยภาพของสตรี
.
นางสุวรรณี ยังได้กล่าวถึงตัวอย่างการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศที่เป็นรูปธรรมในประเทศไทย ประกอบด้วย 4 กลไก ดังนี้ 1) กลไกทางรัฐสภา ได้แก่ คณะกรรมาธิการสามัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องเพศภาวะของทั้งสองสภา 2) กลไกทางกฎหมาย ได้แก่ การบรรจุหลักการเรื่องการจัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงมิติหญิงชาย (Gender Responsive Budgeting) ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 การจัดทำคู่มือการจัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงมิติหญิงชาย และการยกร่างกฎหมายเพื่อส่งเสริมสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ 3) กลไกระดับชาติ ได้แก่ สมัชชาสตรี ซึ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีจากทุกภาคส่วน โดยเสนอความเห็นไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายและแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และ 4) กลไกอื่น ๆ ได้แก่ การดำเนินการของสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่มุ่งพัฒนาความเชี่ยวชาญและศักยภาพของสตรีในทุกระดับ
.
ในช่วงสรุป นางสุวรรณี กล่าวถึงความร่วมมือกันระหว่างคนรุ่นต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นกระบวนการเชื่อมช่องว่างระหว่างวัย ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างโอกาสให้คนรุ่นต่าง ๆ และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกัน
ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน
