ศรีสะเกษ “ออดี้”ขออนุญาติตามหา หมาหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “P’Pitchasinee Series” ได้โพสต์ภาพสุนัขพร้อมข้อความระบุว่า “ขออนุญาติตามหา หมาหาย ค่ะ ใครว่างๆงานขับรถตามหาน้องได้นะคะ วอนขอพี่ๆช่วยน้องเอาบุญหน่อยนะคะ มีสินน้ำใจให้ค่ะ” โพสต์เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2566 และข้อความ “ปีใหม่นี้ ไม่ขออะไรมาก ขอให้เจอน้องอีกครั้ง ไม่ว่าจะเจอสภาพแบบไหน ก็รับได้หมด ขอแค่น้องยังมีชีวิตอยู่ ขอพลังโซเชียลพาน้องกลับบ้านหาครอบครัวด้วยนะคะ” ซึ่งโพสต์เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 ได้โพสต์ข้อความว่า “ ยังตามหาน้องอยู่นะคะ ฝากทุกคนช่วยแชร์ออกไปทีค่ะ แฟนเก่าจ้างเพื่อนเลี้ยงไว้ไม่นาน พอเราจะไปรับน้องกลับ เพื่อนที่รับเลี้ยงกลับบอกว่า น้องหายได้ 2 วันแล้ว เพื่อนเอาไปส่งที่บ้านพ่อแม่แฟนเก่า บอกว่าน้องตกใจหมาใหญ่เห่า วิ่งเตลิดหาย แถมไม่ช่วยหาน้อง เราจ้างคนตามหาตั้งแต่วันที่รู้ข่าวน้อง ตามหาทุกวัน ระดมคนหาหลายจุด ส่วนจุดที่เพื่อนบอกว่าหาย มันไม่ใช่จุดใหญ่ หากันเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เหมือนแทบไม่มีร่องรอยน้องอยู่เลย เราไม่รู้จะตามหายังไง เป็นห่วงน้องมาก จะอยู่ จะกินยังไง (หรือหากน้องไม่มีชีวิตอยู่ ก็ขอให้เจอร่างน้องเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี) ตอนนี้เหมือนน้องหายสาบสูญไปเลย ส่วนเพื่อนแฟนเก่าถามอะไรก็ไม่ค่อยอยากจะตอบ พอตอบมาก็อ้ำๆอึ้งๆ เหมือนมีอะไรซักอย่าง ที่ปิดบัง (เราไม่อยากกล่าวหา) แต่มันแปลก ที่คนทั่วทั้งจังหวัด ไม่มีใครเจอน้องเลย แม้แต่จุดที่น้องหาย ก็ไม่มีแม้ร่องรอยของน้อง ขอแรงทุกคน ช่วยให้น้องออดี้กลับบ้านหาครอบครัวด้วยนะคะ มีสินน้ำใจให้ สำหรับคนแจ้งเบาะแส ทำไมตัวที่หาย เป็นตัวที่เพื่อนเขาอยากได้ หมาเราไม่เคยกลัวหมาใหญ่ ตัวที่หาย ทำไมต้องเป็นตัวที่เลี้ยงง่ายที่สุด และดื้อน้อยที่สุด” หลังโพสต์ข้อความมาอย่างต่อเนื่องได้มีชาวเน็ตแห่เข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ทราบชื่อ คือ น.ส.พิชญ์สิณี อินมาร์สงเคราะห์ อายุ 30 ปี ชาว จ.อุดรธานี เจ้าของเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนประกอบอาชีพเป็นนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ทำงานที่ต่างจังหวัด สนุขที่หายไป เป็นสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน อายุ 2 ปี 3 เดือน เพศผู้ ชื่อ “ออดี้” ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด และต่อมาแฟนเก่าตน ซึ่งเป็นคน จ.ศรีสะเกษ ได้มาขอนำไปเลี้ยง ตนก็ให้เพราะคิดว่าเขาคงคิดถึงน้องหมา จึงวานเพื่อนให้มารับที่ จ.อุดรธานี
หลังจากนั้นตนก็ได้ติดต่อน้องเรื่อยๆ ว่าน้องเป็นยังไงบ้าง แต่ผู้ที่เลี้ยงก็ไม่ได้ตอบอะไร พอวันหนึ่ง เมื่อประมาณช่วงปลายปี 2566 ตนจะไปรับน้องกลับ ทางแฟนเก่าก็ตอบมาว่าน้องหมาหาย พอรู้เรื่องก็สงสัยว่าน้องทำไมหาย เป็นไปไม่ได้ว่าน้องจะหาย ซึ่งคนที่รับน้องไปเลี้ยง อ้างว่าน้องหมาตกใจเสียงสุนัขพิทบลู ที่อยู่ในกรงเห่าเสียงดัง แล้วตกใจวิ่งหายไป และอ้างว่าตามหาจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอ ส่วนตัวเราคิดว่าน้องออดี้ ไม่น่าจะหายไปเอง เพราะน้องหมาออดี้ เป็นหมาที่เชื่องมาก จากนั้นตนจึงได้โพสต์ตามหาน้องหมา โดยตั้งรางวัลให้สำหรับผู้ที่พบเห็นและแจ้งเบาะแสหรือจับได้แล้วนำส่งคืน เป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท แต่แล้วก็ยังไม่มีวี่แวว ตนจึงเพิ่มรางวัลขึ้นเป็น 50,000 บาท พร้อมปิดประกาศทั่วเมืองศรีสะเกษ และทางโซเชียล พอเป็นข่าวดังคนให้ความสนใจเยอะมาก จึงมีคนแจ้งเบาะแสพบน้องหมาที่มีลักษณะคล้ายน้องหมาในรูป ตนจึงได้เดินทางมาดู เพื่อที่จะยืนยันว่าเป็นน้องหมาออดี้ที่เป็นหมาของเรา พร้อมนำหลักฐานภาพถ่ายและหลักฐานอื่นๆ เพื่อที่จะยืนยันว่าเป็นน้องหมาออดี้ของตน ซึ่งจุดเด่นคือมุมปากน้อง จะมีร่องรอยโดนกัด และจะชอบพับหูเก็บเวลาคนคุยด้วย เท้าข้างซ้ายมีจุดแดง 1 จุด ใต้ทองมีปาน 3 จุดใหญ่ๆ เราจึงมั่นใจว่าเป็นหมาของตน และได้เตรียมหลักฐานมาพร้อม เพราะกลัวคนที่เป็นคนที่เลี้ยงคนใหม่ เขาจะไม่ยอมคืนน้องหมาให้ แต่พอมาถึงพี่คนที่เลี้ยงน้องคนใหม่ ก็ยอมคืนน้องหมาให้กับตน เพราะเมื่อน้องหมาเจอตนครั้งแรก ได้วิ่งเข้าหาพร้อมกระโดดใส่เจ้าของอย่างชัดเจน ตามสันชาติญาณของสัตว์เลี้ยง
ด้าน นางนิตยา อินทร์แก้ว อายุ 49 ปี ชาว ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพค้าขายในตลาด เป็นคนชอบเลี้ยงหมาและแมว เมื่อช่วงประมาณ เดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา มียายข้างบ้านตน นำน้องหมาตัวนี้มาฝากให้ตนเลี้ยง โดยอ้างว่าเจอหมาตัวนี้เดินเข้ามาในบ้าน ไม่ทราบมาจากไหน และได้พยายามตามหาเจ้าของ แต่ก็ไม่พบใครเป็นเจ้าของ จึงได้นำมาให้ตนเลี้ยง ซึ่งตนก็เป็นคนชอบสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว จึงรับไว้ และเลี้ยงดูอย่างดี และมีความรักความผูกพันธ์อย่างมาก กระทั่งพบเจ้าของโดยแท้จริง ตนจึงยอมคืนน้องหมาให้เจ้าของ เพื่อกลับไปหาครอบครัวอันเป็นที่รักได้ดูแลต่อไป
ข่าว/ภาพ … บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ