เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการประกอบกับเป็นฤดูการท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และยาวไปถึงวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ก็จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ เริ่มวางแผนในการพาครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อน ออกเดินทางเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าเขา เพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงสวนดอกไม้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เพื่อไปเช็กอินเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่ “สวนดอกไม้วนิดา” บริเวณถนนศรีสะเกษ-กันทรารมย์ หลักกิโลเมตรที่ 13 พื้นที่บ้านกะบา ต.โพนเขวา (อ่านว่า โพน-เขวา) อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางสายชล โพธิ์พัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของสวน ได้เร่งปลูกดอกไม้และตัดเตรียมสถานที่ จุดพักผ่อน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านของฝาก จุดเช็คอิน และจุดถ่ายรูป สำหรับนักท่องเที่ยว บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ที่มีการเนรมิตพื้นที่ เปลี่ยนจากทุ่งนา ออกแบบเป็นสวนดอกไม้ได้อย่างสวยงาม เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
นางสายชล โพธิ์พัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของสวน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพค้าขาย เปิดร้านดอกไม้ในตัวเมืองศรีสะเกษ ต่อมาได้ประสบปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลทำให้ร้านดอกไม้ได้รับผลกระทบยอดขายตก ค้าขายไม่ค่อยดีเหมือนเช่นเคย บางครั้งรับดอกไม้มาขายก็ประสบปัญหาขาดทุน ตนจึงมีแนวคิดที่อยากจะเปลี่ยนพื้นที่นาที่มีอยู่ 50 ไร่ แบ่งมาปลูกสวนดอกไม้ จำนวน 30 ไร่ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ตอนแรกมีแนวคิดแค่ว่า ปลูกดอกไม้ไว้ขายเองเพื่อเป็นการลดต้นทุน ไม่ต้องสั่งซื้อดอกไม้มาขาย แต่พอมาปลูกแล้ว กลับเกิดเป็นความรัก จึงมีแนวคิดอยากสร้างให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของ จ.ศรีสะเกษ ไม่ต้องไปเที่ยวไกลถึงภาคเหนือ โดยตัดสินใจเอาเงินที่ตนเองเก็บสะสมมาทั้งชีวิต 3.5 ล้านบาท และกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ อีก 1.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท มาลงทุนปรับพื้นที่ ซื้อพันธุ์ดอกไม้มาปลูก ออกแบบร้านกาแฟและมุมถ่ายรูป ซึ่งในปีที่ผ่านมาเป็นปีแรก ตนมีรายได้จากการเก็บค่าเข้าชมสวน ในอัตรา ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท และรายได้จากการขายดอกไม้ ของที่ระลึก และอื่นๆ ประมาณ 2 ล้านบาท จึงนำเงินไปปิดหนี้ที่กู้ยืมมา 1.5 ล้านบาท ต่อมาปี 2566 นี้ ทาง ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ ก็ได้สนับสนุนอนุมัติเงินกู้ให้ตนนำมาลงทุนต่อยอดปรับปรุงสวนให้ยิ่งใหญ่สวยงามกว่าเดิม จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะมีความสวยงามเป็นพิเศษอย่างแน่นอน ตอนนี้ดอกไม้เริ่มออกดอกแล้ว ประมาณ 60 เปอร์เซ็น คาดว่าจะเต็ม 100 เปอร์เซ็น ในช่วงปีใหม่ แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2566 นี้ เป็นต้นไป ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ก.พ. 2567 ทั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งตนก็จะนำไปช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ยากจน ยากไร้ อีกด้วย
ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สวนดอกไม้แห่งนี้ถือว่าเป็นสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในศรีสะเกษ และมีดอกไม้นานาชนิดให้ชมอย่างสวยงาม และต้องขอชื่นชมเจ้าของสวน ที่นอกจากจะสร้างแลนด์มาร์คใหม่ให้กับชาวศรีสะเกษแล้ว ยังจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเกิดการจ้างงาน เป็นแรงงานจากชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้ชุมชนมีรายได้ เจ้าของสวนมีความมุ่งมั่นที่อยากจะเปลี่ยนแปลง พัฒนา สร้างแหล่งท่องเที่ยวให้กับชาวศรีสะเกษ ไม่ต้องเดินทางไกลไปเที่ยวชมถึงภาคเหนือ และยังใจบุญแบ่งปันช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ต้องขอชื่นชมและเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ข่าว/ภาพ …… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ