วันที่ 5 ธ.ค. 66 ผู้สื่อรายงานว่า พบกล้วยงวงช้างออกยืนต้นคู่ รูปปั้นพญาช้างก่ำหน้าวัดพระธาตุจอมศีลตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ทำให้เป็นที่แปลกตาแก่ผู้พบเห็น ต้นกล้วยงวงช้างออกงวง เหมือนงวงช้างปู้ก่ำงาเขียวซึ่งเป็นช้างในประวัติศาสตร์ของอำเภอดอกคำใต้ เป็นช้างที่มีตัวใหญ่ยาวถึง 12 ศอก มีกำลังมหาศาล มีผิวหนังดำก่ำ มีงาสีเขียว เป็นช้างคู่บารมีของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ปู่ก่ำงาเขียวเป็นช้างที่มีฤทธิ์มาก เมื่อออกศึกสงคราม เพียงแค่ช้างหันหน้าไปทาง ศัตรู ก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ ซึ่งปู่ก่ำงาเขียว ได้มาทำศึกสงครามในอำเภอดอกคำใต้ ต่อมาช้างปู่ก่ำได้ล้มนอนเสียชีวิตในลำน้ำร่องช้าง ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งเป็นจุดแหล่งต้นน้ำลำน้ำร่องช้าง ที่ไหลหล่อเลี้ยงชาวอำเภอดอกคำใต้จนถึงปัจจุบัน ทางวัดและชาวบ้านแต่ละชุมชน ในอำเภอดอกคำใต้ ก็ได้สร้างรูปปั้นช้างปู่ก่ำงาเขียวไว้เป็นที่เคารพนับถือ
เช่นเดียวกับวัด พระธาตุจอมศีล และชาวบ้าน ตำบลถ้ำ ได้ปั้นรูป ช้างปู้ก่ำงาเขียว ไว้บริเวณสามแยกหน้าวัดพระธาตุจอมศิล และเป็นที่ฮือฮาที่มีต้นกล้วย งวงช้างออกบริเวณ 2 ข้างซ้ายขวาของ รูปปั้นช้างและมี 1 ต้นที่แทงปลีออกเครือยาวกว่า 2 เมตร ชาวบ้านเห็นต่างฮือฮาและเชื่อเป็นสิริมงคลแก่ชุมชนที่ มีกล้วยงาช้างออกบริเวณข้างรูปปั้น พญาช้างก่ำ
จากการสังเกตต้นกล้วย 2 ต้นที่ออกบริเวณ ข้างรูปปั้นพญาช้างก่ำ ลำต้นมีขนาดลำต้นเท่า คนออกสูงกว่า 3 เมตร แผ่ก้านใบ เขียวชะอุ่มและ ออกปลีแทงเครือ จำนวน 1 ต้น มีความยาวกว่า 2 เมตร
จากการสอบถาม นางแก้ว ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้รูปปั้นพญาช้างก่ำ ทราบ ว่าต้นกล้วยดังกล่าวไม่มีใครนำเอามาปลูก แต่จะออกเองบริเวณ ด้านซ้ายและด้านขวาของรูปปั้น พญาช้างก่ำ และมี1ต้นได้แทงออกปลีออกเครือยาวกว่า 2 เมตร สร้างความ แปลกใจให้กับตนเองและชาวบ้านมาก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นสิริมงคลแก่ชุมชนในพื้นที่ตำบลบ้านถ้ำที่ กล้วยงวงช้างแทงปีออกเครือ ข้างรูปปั้นพญาช้างก่ำบริเวณสามแยก ของหมู่บ้าน แห่งนี้
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา