พาเที่ยวแลนด์มาร์คลำปาง “วัดดอยพระฌาน” แขวนกระดิ่งขอพร “พระพุทธรูปไดบุตสึ” ศิลปะ 2 ด้านไทย-ญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวพาเที่ยวชมแลนด์มาร์ค “ลำปาง” ที่วัดพระธาตุดอยพระฌาน เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมทางด้านพุทธศิลป์ ที่งดงาม ตั้งอยู่บนยอด “ดอยพระฌาน” นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้มาสักการะองค์พระธาตุแล้ว ยังสามารถแวะชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า ก่อนที่จะไปแขวนกระดิ่งขอพรจาก “พระพุทธรูปไดบุตสึ” หรือ “หลวงพ่อโตจำลอง” พระพุทธรูปองค์ยักษ์ที่มีใบหน้าเข้มขลัง แถมยังมากไปด้วยพลังศรัทธาในฉบับของ “แดนอาทิตย์อุทัย” นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาขอพรได้ตลอดทั้งปี ทางวัดจะปิดให้เข้าชมในวันพุธ ยกเว้นเป็นวันพุธที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเปิดให้เข้าชมตามปกติ
“วัดพระธาตุดอยพระฌาน” ตั้งอยู่ ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาอันเงียบสงบที่เรียกว่า “ดอยพระฌาน” สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอ.แม่ทะ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ในเวลาเช้าสามารถเห็นทะเลหมอกเคล้าแสงสวยได้อีกด้วย นอกจากตัววัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่งดงาม ยังมี “พระใหญ่ไดบุตซึ” องค์พระสีเขียวขนาดใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์ค ของดอยพระฌาน ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถ เดินมาสักการะ “พระใหญ่ไดบุตซึ” โดยพื้นที่ในบริเวณนี้เป็นการจำลองบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นมาไว้ ทั้งร้านกาแฟ ชื่อว่า “ดอยพระ รีเฟรซ” ตกแต่งร้านโดยใช้โคมไฟสีแดงประดับ มีตุ๊กตาโตโตโร่ ตัวการ์ตูนชื่อดังในอนิเมชั่นคลาสสิกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า พอเดินผ่านร้านกาแฟจะเจอกับ “พระใหญ่ไดบุตซึ” พระอมิตาภพุทธะ จำลองคล้ายกับ “วัดโคโตคุ” เมืองคามุระ ของประเทศญี่ปุ่น องค์พระขนาดใหญ่ประทับนั่ง หน้าตัก 14 เมตร ด้านในเป็นเนื้อทองแดง องค์พระมีเนื้อออกสีเขียวฟ้า มีบันไดและราวบันไดสีแดงโดดเด่นทอดยาวไปถึงองค์พระ องค์พระมีพุทธลักษณ์ที่มองดูแล้วรู้สึกได้ถึงความสงบนิ่ง งดงามไม่แพ้องค์จริงที่ประเทศญี่ปุ่น และตรงบริเวณทางขึ้นมีกระดิ่งให้เขียนขอพรแล้วแขวนไว้ยังจุดที่เตรียมไว้ เหมือนที่ญี่ปุ่น เป็นวัดที่มรทั้งความสวยแบบไทยล้านนา และความแปลกตาใน สถาปัตยกรรมจากจากประเทศญี่ปุ่น รวมมาไว้ในที่เดียวกัน
“วัดพระธาตุดอยพระฌาน” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 23 กิโลเมตร ถนนในช่วงสุดท้ายเป็นทางขึ้นเขา ค่อนข้างแคบ แนะนำ สำหรับผู้ที่จะเดินทางมา เที่ยว ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ลานจอดรถข้างบนมีจำนวนจำกัด ทางขึ้นเขาสวนกันลำบาก นักท่องเที่ยวควรจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถข้างล่าง แล้วใช้บริการรถท้องถิ่นของชาวบ้าน ขึ้นไป ในราคาท่านละ 20 บาท สำหรับช่วงเวลาแนะนำหากอยากมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกยามเช้า ให้มาถึงช่วงประมาณ 06.00 น. จากลานจอดรถเราแวะไปบริเวณของตัววัดก่อน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมชมสายหมอก โดยทางเข้าด้านหน้าของวัด จะมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และพระพุทธรูปสีทอง 5 องค์ ส่วนองค์พระธาตุเป็นสีขาวตรงบนยอดฉัตรเป็นสีทอง ถัดไปคือ ตัววัดก่อสร้างด้วยศิลปะแบบล้านนาร่วมสมัยที่งดงาม
บริเวณตัวพระอุโบสถ โดดเด่นด้วยบันไดนาค รอบบริเวณวัด เปิดโล่งอีกทั้งยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ สามารถมองเห็นตัวอำเภอแม่ทะ และอำเภอใกล้เคียง ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงาม บนยอดดอยสูง นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายรูปผ่านลูกแก้วมองเห็นเป็นพระอุโบสถกลับหัว และยามเช้าในช่วงฤดูหนาวจะได้พบกับแสงสีทองอบอุ่น ส่องกระทบผ่านยังสายหมอกบางที่อยู่ข้างล่าง ไฮไลท์ทึ่สวยงามคือช่องประตูที่เชื่อมต่อกับบันไดนาคทางขึ้น ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่สามารถขึ้นมาชมวัดจากบันไดนี้ได้ บันไดขึ้นดอยมี 628 ขั้น รวมระยะทาง 413 เมตร
ภายหลังที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ากราบสักการะพระพุทธรูปและขอพรแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถ เดินทางชมทัศนียภาพ เพื่อลงจากองค์พระธาตุ “ดอยพระฌาน” เป็นขั้นบันไดผ่านแนวพญานาค ที่ทอดยาวลงมาจำนวน 628 ขั้นระยะทางประมาณ 413 เมตรโดย ระหว่างเดินลงมาจะผ่านองค์พระปางปาลิไลยก์ เพื่อกราบไหว้ขอพรรวมไปถึงพระอุปคุตจำลอง และพระรอยพุทธบาท เพื่อกราบไหว้ขอพร จนกระทั่งเดินทางมาถึงยังบริเวณด้านล่างมี “องค์พระพุทธรูปปางนาคปรก” ก่อนที่จะเดินทางไปยังลานจอดรถแวะพักบริเวณร้านค้าเพื่อผ่อนคลายก่อนกลับ.
ทรงวุฒิ ทับทอง