โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยยอดผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำต้องใส่ใจดูแลทหารทุกคน เสมือนพี่น้องและเป็นไปอย่างสมเกียรติ
พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงาน ผลการตรวจเลือกทหารกองเกินทั่วประเทศ ประจำปี 2561 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยสรุป ยอดทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือกทั่วประเทศ 525,621 คน ยอดที่กองทัพต้องการ 104,734 คน หรือ ร้อยละ 20 ของยอดเข้ารับการตรวจเลือก มีผู้สมัครใจเป็นทหาร 44,797 คน หรือ ร้อยละ 43 ของยอดที่ต้องการ เป็นผลให้มีผู้จับสลากจำนวน 214,519 คน เข้าประจำการ 58,739 คน หรือ ร้อยละ 27 ของยอดจับสลาก ทั้งนี้ ภาพรวมของการตรวจเลือกทหารกองเกินทั่วประเทศที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2554 – 2557 มีผู้สมัครใจเข้าเป็นทหาร โดยเฉลี่ย ร้อยละ 31 ต่อปี
จากยอดที่กองทัพต้องการในแต่ละปี สำหรับปี 2558 – 2561 มีผู้สมัครใจเข้าเป็นทหาร โดยเฉลี่ย ร้อยละ 46 ต่อปี จากยอดที่กองทัพต้องการในแต่ละปี ซึ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม พลเอก ประวิตร ได้กำชับให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้ความสำคัญในการกำกับดูแล และปฏิบัติกับทหารทุกคนอย่างสมเกียรติ ฝึกปรับสภาพทหารใหม่ทุกคน ให้ดำเนินการตามแบบฝึก โดยพิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ให้มีอันตราย สำหรับการลงโทษ ให้ยึดแบบธรรมเนียมทหารอย่างเคร่งครัด โดยต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ขอให้ระลึกว่า ทหารทุกคนเปรียบเสมือน ลูกหลาน หรือ น้องๆ ที่หมุนเวียนเข้ามารับใช้ชาติและช่วยเหลือประชาชน กองทัพต้องเป็นสถาบันหลัก ที่ต้องเป็นที่เชื่อมั่นกับประชาชน พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้ ในการช่วยเสริมสร้างทหารทุกคนให้มีวินัย ช่วยเหลือพัฒนาการศึกษาและทักษะอาชีพทหารทุกคน ให้พร้อมที่จะเป็นหลักให้กับครอบครัวเมื่อปลดประจำการ