นักศึกษา ม.พะเยา ลงแขกดำนาด้วยมือ เรียนรู้การปลูกข้าว จากประสบการณ์จริง
นักศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา ได้ร่วมกันลงแขกดำนา เรียนรู้การปลูกข้าว จากประสบการณ์จริง ในกิจกรรม “ปลูกข้าว-เอาแป้ง-มาแปรรูป” เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อตัวนิสิต นักศึกษา ที่ แปลงนาวิสาหกิจชุมชน อิ่นศิริโชค หมู่บ้านสันป่าหนาด เลขที่ 214 หมู่ 8 ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
ดร.คุณากร ขัติศรี (อ.ขุน) อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดเผยว่า กิจกรรม “ปลูกข้าว-เอาแป้ง-มาแปรรูป” เป็นการลงแปลงนา เพื่อนำนิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร (วทอ.) จำนวน 26 คน ลงพื้นที่ในแปลงนาข้าว เพื่อลงแขกดำนาด้วยตนเอง ตามวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และในวันนี้ได้มีนักศึกษาทุน จากประเทศกัมพูชาจำนวน 2 คน มาร่วมดำนาในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเปิดเผยว่าต่างรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่มีส่วนร่วมในการปลูกข้าวที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียน และบางคนในชีวิตจริงไม่เคยดำนามาก่อน สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ได้เริ่มเตรียมวัตถุดิบ ตั้งแต่การปลูก และเมื่อข้าวตั้งท้อง ออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ได้จะถูกนำไปแปรรูปเป็นแป้งข้าว เพื่อที่จะให้นิสิต ชั้นปีที่ 3 นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะนิสิตชั้นปีที่ 3 จะได้เรียนวิชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นวิชาที่เปิดกว้างทางความคิดในการแปรรูปผลิภัณฑ์ใหม่ๆ โดยการปลูกข้าวครั้งนี้เราใช้พันธุ์ข้าวเหนียวก่ำล้านนาพะเยา ซึ่งทางวิสาหกิจชุมชน อิ่นศิริโชค ได้เตรียมต้นกล้าไว้ให้
ทั้งนี้นิสิตที่ร่วมกิจกรรม จะได้ฝึกความอดทน เรียนรู้กระบวนการปลูกข้าวและสร้างความสามัคคีในชั้นปี จากนั้นเมื่อนิสิตขึ้นชั้นปีที่ 4 จะได้เรียนวิชาปัญหาพิเศษ ซึ่งเป็นวิชาที่ต้องใช้องค์ความรู้รวมทั้งหมดที่เรียนมาตลอด 4 ปี เพื่อแก้ปัญหาของผู้ประกอบการหรือคิดโจทย์วิจัยใหม่ๆ โดยวางแผนการทดลองอย่างเป็นระบบ และมีความพร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพหลังจากสำเร็จการศึกษา ซึ่งกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่นิสิต นักศึกษา จะได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเปิดวิสัยทัศน์ให้กับตนเอง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างเครือข่าย ระหว่างมหาวิทยาลัย กับชุมชน และจะเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อตัวนิสิตนักศึกษาเองด้วย
ขณะที่นายซีทา หมืน (น้องผู้ชาย) นักศึกษาทุน จากประเทศกัมพูชา(ตัวแทนนิสิต) บอกว่าตนเองรู้สึกยินดี ดีใจ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากกว่ามีความรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน (ประเทศกัมพูชา) เพราะแต่ก่อนที่บ้านก็ทำนาเหมือนกัน เลยทำให้นึกถึงบรรยากาศเหมือนที่บ้านเลย และเป็นประสบการฯที่หาได้ยากในการเรียนในยุคปัจจุบัน