สองตายายวัย 65 และ 64 ปี สามีภรรยาพิการทั้งคู่ ถูกหญิงอายุประมาณ 30-35 ปี ขับจักรยานยนต์มาถึงบ้าน อ้างเป็นหมอนวดแผนไทย เข้าไปบีบนวดไม่ถึง 5 นาทีฉกกระเป๋าเงินยายที่ลูกเพิ่งส่งมาให้ 1,500 ไปดื้อๆต่อหน้า แบบหมดโอกาสติดตาม ยายเผยในกระเป๋ามีทั้งเงิน ทั้งบัตรเอกสาร น้ำตาไหลไม่มีเงินไปทำบัตร
วันที่ 5 ก.พ./ตำรวจ สภ.เมือง บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากสองสามีภรรยา ซึ่งเป็นคนพิการ ถูกมิจฉาชีพ ขโมยกระเป๋าเงินซึ่งมีเงินสด 1,500 บาท ภายในบ้าน แล้วขับรถจักรยานยนต์หนีไป
เมื่อไปตรวจสอบ พบนายจ่อย และนางนอม อาศจักร์ อายุ 65 ปีและ 64 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านโนนรัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้งสองเป็นคนพิการ นายจ่อย เดินไม่ได้จากโรคกระดูกทับเส้น ส่วนนางนอม ต้องใช้ไม้เท้า ถึงกับมือสั่นร้องไห้ โทรศัพท์เล่าเรื่องราวให้ลูกสาวฟัง
นายจ่อย เล่าว่า ระหว่างที่ตนนั่งเล่นอยู่ ได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 30-35 ปี ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เทน่า รุ่นเก่า มาจอดแล้วมาทักถามถึงอาการที่เดินไม่ได้ จากนั้นได้พยายามจะเข้ามานวดให้ ลักษณะลูบคลำตามกางเกงเหมือนหาสิ่งของมีค่า เมื่อไม่พบอะไร ก็ได้เดินไปหาภรรยาตน ที่กำลังทอผ้าซึ่งห่างกันประมาณ 5 เมตร ไม่นานหญิงสาวคนดังกล่าว ก็วิ่งออกจากหน้าบ้านขับจักรยานยนต์หนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนภรรยาจะตะโกนว่าถูกขโมยเงิน ส่วนตนเองได้แค่มองเพราะเดินไม่ได้
นายจ่อย เล่าด้วยว่า เงินดังกล่าวจำนวน 1,500 บาทลูกสาวเพิ่งส่งมาให้ ให้คนในหมู่บ้านไปกดมาให้ได้เพียงวันเดียว หวังเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เพราะต้องเลี้ยงหลานอายุ 12 ปีอีก 1 คน
ด้านนางนอม อาศจักร์ เล่าว่า หญิงสาวคนนั้นได้เข้ามาจะพยายามนวดให้ แต่ตนปฏิเสธ เพราะไม่เคยนวด แต่หญิงสาวก็ไม่ยอม ก่อนจะล้วงเอาเงินไปดื้อๆ ตนได้แค่มองตาม
เงินที่ได้มาจากลูกสาว อยู่ในกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเอกสารเป็นบัตรประชาชน ,บัตรคนพิการ,และบัตรประชารัฐ ตอนนี้ไม่เหลือเงินแม้บาทเดียว ที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปทำบัตรที่หายใหม่ได้
ข่าว-ภาพ วันชัย ผิวอร่าม / วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์