รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมทองจัตุ บก.กกล.ผาเมือง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยพล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปส. และคณะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย โดยมี พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ , นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ,พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ,ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานการณ์ปัญหาข้อขัดข้องในพื้นที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมารับฟังแผนการดำเนินงานด้านยาเสพติดจากหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ทั้งแผนการสกัดกั้น การป้องกัน การปราบปรามตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและเกิดผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน
ด้าน พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เปิดเผยถึงสถานการณ์และแนวทางการขับเคลื่อนการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือว่า สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาในห้วงที่ผ่านมา ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การผลิตและการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่เขตรัฐฉาน แต่ส่งผลต่ออัตราการผลิตยาเสพติดสูงขึ้นเนื่องจากมีการพัฒนาสูตรผสมยาเสพติดที่มาจากสารสังเคราะห์แทนพืชเสพติด โดยมีการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์จากต่างประเทศ
สำหรับพื้นที่ผลิตยาเสพติดหลัก ยังคงอยู่ในพื้นที่รัฐฉานเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองพิเศษของกลุ่มว้า สามารถผลิตยาเสพติดได้ทั้ง ไอซ์ เฮโรอีน ยาบ้า (Y1) และ
คีตามีน ส่งผลให้ปัจจุบันมีแหล่งพักยาเสพติดบริเวณแนวชายแดน จำนวน 24 แห่ง ที่สำคัญแหล่งผลิตในพื้นที่รัฐฉานจะลักลอบขนยาเสพติด เข้ามาพักคอยในแหล่งพัก ตามแนวชายแดน ด้านตรงข้ามจังหวัดเชียงใหม่ และด้านตรงข้ามจังหวัดเชียงราย เพื่อรอการลำเลียงเข้าสู่เขตไทย ทั้งนี้จากแหล่งข่าวพบว่าปัจจุบันกลุ่มชาติพันธุ์ มีบทบาทในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เข้ามาในเขตไทย
อย่างไรก็ตามจากรายงานข่าวพบว่ามีการลักลอบขนส่งยาเสพติด ผ่านทางระบบโลจิสติกส์รูปแบบพัสดุภัณฑ์ มากขึ้นเนื่องจากมีความเสี่ยงน้อย ใช้ต้นทุนต่ำ รวดเร็ว และสามารถส่งถึงผู้รับได้โดยตรง และในห้วงเดือนกันยายน และ ตุลาคม ของทุกปี จะพบกลุ่มขบวนการเดินทางจากพื้นที่ตอนในไปเคลื่อนไหวบริเวณ แนวชายแดน เพื่อลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากพบการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ได้เป็นจำนวนมาก
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพร้อมคณะเดินทางไปที่ฐานปฏิบัติการนอแล อ.ฝาง เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงาน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคแก่เจ้าหน้าที่และนักเรียนโรงเรียนบ้านขอบด้ง และตรวจพื้นที่เกิดเหตุปะทะ/ตรวจยึดยาเสพติดที่บริเวณช่องทางศาลาแปดเหลี่ยม ก่อนเดินทางติดตามการดำเนินการงานด้านยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย.
ทรงวุฒิ ทับทอง