เกิดก้อนเมฆคล้ายพิมพ์หล่อรูปเหมือน “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ในพิธีหล่อพระพุทธรูปปางรำพึงและองค์รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย
มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ร่วมกับคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน (ภาคเหนือตอนบน) คณะผู้แทนกลุ่มธรรมทูต หล่อพระพุทธรูปปางรำพึงและองค์รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นส่วนประกอบหนุนการเสนอครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก(ยูเนสโก)
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ที่ มณฑลพิธีข้างวิหารหลวง หลวงปู่ หมู่บ้าน ฮิมม่า เพรสทีจลิฟวิ่ง (ข้างแบงค์ชาติ) ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อาจาราย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา พร้อมด้วย พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะตัวรองประธานคณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน (ภาคเหนือตอนบน) ดร.ปรีชา บัววิรัตน์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. ตลอดจนเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปและศิษยานุศิษย์ร่วมกันหล่อพระพุทธรูปปางรำพึง อันเป็นพระชลวาร ขนาดความสูง 170 เซนติเมตร จำนวน 4 องค์ เป็นปฐมฤกษ์ และหล่อองค์รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว จำนวน 6 องค์ และขนาด 9 นิ้ว อีกจำนวน 50 องค์ เพื่อเป็นส่วนประกอบหนุนการเสนอครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ทางด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและสันติภาพ ต่อองค์การยูเนสโก ในสาขาวัฒนธรรมที่สร้างความสงบสุขอันนำไปสู่สันติภาพ ร่วมกับโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ (ตอนบน) โดยมุ่งหวังที่จักสืบสานศาสนา รักษาแผ่นดิน ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นหลักชัยของแผ่นดิน
ทั้งนี้อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แบบเสนอคำขอเพื่อเสนอชื่อครูบาเจ้า ศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก (ANNEX II ) มีประเด็นที่เป็นหัวใจของการเสนอขอ คือ ต้องมีการเผยแพร่จริยวัตร ปฏิปทา รวมถึงการนำบทบารมี 30 ทัศ อันเป็น คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ตามคติเถรวาท เป็นการบำเพ็ญบารมีทั้งหมด 10 ข้อ ได้แก่ ทานบารมี สีละบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี
คำว่า “30 ทัศ” นั้น มีที่มาจากการบำเพ็ญบารมีจะต้องบำเพ็ญ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับต้น (10) ระดับกลาง (10) และระดับ สูงสุดอีก (10) รวมเป็น บารมี 30 ประการ
อาจารย์วารินทร์ฯ ได้จึงนำศิษยานุศิษย์ มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา ดำเนินการหล่อองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยและเหรียญบูชา พร้อมประกอบพิธีเถราภิเษกและปลุกเสก เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 รวมถึงให้มีการประสานงานจัดคัดลอก ขั้นตอนบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธ และพระคาถาบารมี 30 ทัศ โดยทำการแปลเป็นภาษาล้านนา ภาษาพม่า ภาษาไทยใหญ่ ภาษากะเหรี่ยง ภาษาอังกฤษ และให้จัดทำเป็นคลิปตัวอย่างการบูชาคุณพระรัตนตรัย และคาถาบารมี 30 ทัศ ให้เป็นภาษาต่าง ๆ เตรียมมอบให้คณะธรรมทูต ในการนำชุดเผยแพร่ ประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ไปมอบให้กับวัดในประเทศต่างๆ ตามขั้นตอนของการเสนอขอ
นอกจากนี้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาจะประกอบพิธีทำบุญมหากุศล (ครั้งที่ 21) โดยมีกองบุญกฐินจำนวน 19 กองบุญ (19 วัด) ผ้าป่ากองเงิน-กองทอง ถวายชุดมหาสังฆทาน ไถ่ชีวิตโค-กระบือ 10 ชีวิต ปลา 1,000 กิโลกรัม และมอบถวายปัจจัยเพื่อสาธารณะกุศล อาทิ มอบทุนโรงพยาบาล ทุนการศึกษา มอบโลงศพ และสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ อีกหลายรายการ
อย่างไรก็ตามการสร้างกองบุญมหากุศลของอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เป็นการสร้างกองบุญที่คณะศิษยานุศิษย์สร้างมอบถวายเพื่อสืบสานศาสนา รักษาแผ่นดิน จึงไม่มีการออกซอง เรี่ยไรใด ๆ ทุกท่านมาร่วมงานบุญโดยความตั้งใจและเจตนาที่บริสุทธิ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญกุศลในการร่วมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในหนุนการเสนอครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก(ยูเนสโก)ในครั้งนี้
ซึ่งขณะ ที่ประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูปปางรำพึง และหล่อองค์รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยปรากฏว่าท้องฟ้าโปร่งใส แต่ได้มีก้อนเมฆ ปรากฏขึ้นคล้ายพิมพ์หล่อรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ขึ้นมาด้วยน่าจะเกิดจากความศักดิ์สิทธิของพิธีในครั้งนี้.
ทรงวุฒิ ทับทอง