Uncategorized

หินล่องหนระเบิดภูเขาทั้งลูกหาผู้กระทำความผิดไม่เจอ แปลกแต่จริงที่มุกดาหาร

หินล่องหนระเบิดภูเขาทั้งลูกหาผู้กระทำความผิดไม่เจอ แปลกแต่จริงที่มุกดาหาร

มุกดาหาร/เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 62 จากกรณีที่มีพี่น้องประชาชนได้ติดตามข่าวสารจากกลุ่มสื่อมวลชนของจังหวัดมุกดาหารถึงประเด็นการระเบิดภูเขาอุทยานภูสีฐาน อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร กินพื้นที่ประมาณร่วม 15 ไร่ โดยผู้ว่าจ้างคือกรมทางหลวงได้ทำสัญญางานตกลงว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งให้ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 ซ้ายบ้านนาไคร้ถึงอำเภอคำชะอี โดยมีพื้นที่ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติภูสีฐานเขตอำเภอหนองสูง การกล่าวเพื่อเป็นการเปิดเส้นทางเชื่อมต่อในการทำถนนตามสัญญาของกรมทางหลวงกับบริษัทดังกล่าว มีเส้นทางที่จะต้องผ่านอุทยานแห่งชาติภูสีฐานและจะต้องทำการระเบิดหินเพื่อเปิดเส้นทาง
จากการติดตามสอบถามของผู้สื่อข่าวที่ตั้งข้อสังเกตอุทยานภูสีฐานเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ทำไมต้องตัดถนนผ่านเส้นทางอุทยาน และการติดตามดังกล่าวปรากฏว่ามีการเคลื่อนย้ายหินที่ทำการระเบิดเพื่อเปิดเส้นทางไปใช้ในกิจการอย่างอื่นโดยนำเอาหินไปทำเขื่อนกั้นตลิ่งแม่น้ำโขงใน 2 จังหวัดคือจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนมรวมไปถึงการทำเขื่อนประตูระบายน้ำในเขตตัวเมืองจังหวัดมุกดาหาร
เมื่อเรื่องดังกล่าวดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแต่ยังไม่เคยมีหน่วยงานองค์กรใดได้ทำการทักท้วงถึงประเด็นของการทำงานดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าพบผู้อำนวยการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง จากการพบปะและพูดคุยจึงได้ทราบว่ากรมทางหลวงผู้ว่าจ้างได้ดำเนินการขออนุญาตไปยังกรมป่าไม้เพื่อขอใช้พื้นที่จำนวน ประมาณ 15ไร่เพื่อตัดผ่านเขตอุทยานภูสีฐาน แต่เรื่องดังกล่าวทางกรมป่าไม้ยังไม่ได้มีการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นประเด็นและปัญหาที่จะต้องดำเนินการเพื่อเอาข้อเท็จจริงเพื่อหาแนวทางในการป้องกันเขตอุทยานแห่งชาติภูสีฐานซึ่งเป็นอุทยานที่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดมุกดาหารกลับคืนสู่สภาพ

กลุ่มผู้สื่อข่าวจังหวัดมุกดาหารตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อกรมป่าไม้ยังไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ แต่ทำไมกรมทางหลวงถึงได้เซ็นสัญญาว่าจ้างให้บริษัทดังกล่าวได้เข้าทำการระเบิดภูเขาเพื่อตัดเส้นทางทำให้เกิดความเสียหายต่ออุทยานจนยากเกินเยียวยา และสิ่งที่ทำให้เกิดความสังเวชและสลดหดหู่ต่อหัวใจของคนมุกดาหารนั่นคือการนำเอาหินที่เกิดจากการระเบิดเปิดเส้นทางไปใช้ประโยชน์ส่วนตนโดยนำหินดังกล่าวไปก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนมรวมไปถึงเขื่อนระบายน้ำที่อยู่ภายในอำเภอเมืองจังหวัดมุกดาหารโดยที่ทางกรมป่าไม้ยังไม่อนุญาตและให้ดำเนินการนำทรัพยากรดังกล่าวไปขาย
และจากการติดตามข้อมูลเพิ่มเติมใน การระเบิดหินดังกล่าว ว่าได้รับการอนุญาตให้ใช้วัตถุระเบิดในการระเบิดภูเขาอุทยานภูสีฐานจากที่ใด ใครเป็นผู้อนุญาต จากการติดตามหินที่ได้จากการระเบิดกลุ่มผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อกรมป่าไม้ที่ควบคุมอุทยานแห่งชาติภูสีฐานยังไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้พื้นที่และพบการกระทำความผิดอย่างชัดเจนว่ามีการระเบิดหินโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตและใช้วัตถุระเบิดจากที่ใดรวมไปถึงการขนย้ายเคลื่อนย้ายหินจากอุทยานภูสีฐานไปจำหน่ายและใช้ประโยชน์ส่วนตัวทำไมไม่แจ้งดำเนินคดีจับกุม การนำเสนอข่าวที่มีอย่างโดยต่อเนื่องทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการด้วยการแจ้งความดำเนินคดีกลับกรมทางหลวงและบริษัทที่เป็นผู้รับจ้างตามสัญญาเลขที่ สท.2/12/2560 ซึ่งประเด็นความผิดได้เห็นเป็นประจักษ์อย่างชัดเจนแล้วยังเหลือขั้นตอนใด
จากการติดตามข่าวครั้งล่าสุดตามเส้นทางข่าว ทราบว่ามีนายทหารท่านหนึ่ง ให้ยุติเรื่องดังกล่าว โดยไม่ให้ดำเนินการแต่อย่างใด คำถามที่ตั้งขึ้นสำหรับพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารจึงนำมาถึงประเด็นว่าเหตุที่ไม่แจ้งความดำเนินคดีจับกุมทั้งที่พบผู้กระทำผิดเป็นเพราะมีนายทหารสั่งการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้อำนวยการธรรมชาติสิ่งแวดล้อมออกมาเปิดเผยถึงข้อเท็จจริงและขอให้กำลังใจพร้อมจะปกป้องคนที่ทำดีเพื่อบ้านเมืองและปกป้องทรัพยากรทรัพย์สมบัติของชาติ และขอให้จังหวัดได้ดำเนินการสร้างถึงกรมทางหลวงให้ยุติโครงการดังกล่าว รวมไปถึงให้ติดตามเอาทรัพยากรของแผ่นดินที่นำไปใช้ส่วนตัวกลับคืนสู่ถิ่นฐานเดิมรวมไปถึงข้าราชการที่ดีนั่งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ทำเป็นตาบอดสีไม่ดำเนินการใดๆกับการกระทำผิดในครั้งนี้ที่อำเภอหนองสูงและอำเภอคำชะอีรวมไปถึงใคร่ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบเครื่องจักรที่ใช้ในการดำเนินงานเพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการนำมาใช้เพื่อกระทำความผิดต่อแผ่นดิน อีกทั้งบริษัทที่เปิดรับเหมาก่อสร้างได้ติดสติ๊กเกอร์หน้ารถและข้างรถคือบริษัท(ขอสงวนนาม) ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับที่ประมูลงานในการก่อสร้างเขื่อนชลประทานตามรูปภาพและนำหินไปใช้ในการกั้นตลิ่งและเห็นดังกล่าวอาจจะไม่ตรงตามแบบคุณลักษณะสมบัติที่กำหนดไว้ของชลประทานให้ยึดคืนและให้ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว จนกว่าจะสามารถนำผู้ที่ทำให้ทรัพยากรของแผ่นดินเสียหายมาลงโทษ คดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอุทยานจะมีโทษค่อนข้างรุนแรงมากโดยเฉพาะเมื่อครั้งล่าสุดชาวบ้านเก็บเห็ดยังโดนคดีนับเป็นปีแต่นี่ระเบิดอุทยานภูเขาทั้งลูกเกือบ 15 ไร่คดีจะกี่ปี จึงขอนำเรียนให้ทางผู้อำนวยการสำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหารรวมไปถึงอธิบดีกรมป่าไม้ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัทผู้รับจ้างชื่อไประเบิดภูเขาและนำหินไปขายใช้ประโยชน์ส่วนตัวให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177