องคมนตรีเยี่ยมปลอบขวัญพระชาวบ้านฟาร์มที่นราธิวาส

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ค.62 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังวัดรัตนานุภาพ ซึ่งตั้งอยู่ ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยเข้านมัสการพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งได้จุดธูปเทียนทองน้อยเคารพสะรีระสังขารพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสและอดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร กุศลจิตโต อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงจนมรณภาพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้เป็นประธานในการประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อแผ่อุทิศส่วนกุศลให้กับพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปและประชาชนที่ล่วงลับไปแล้ว อันเกี่ยวเนื่องกับปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้น

ซึ่งก่อนเดินทางกลับนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม ที่เดินทางมาคอยให้การต้อนรับ พอสรุปใจความว่า ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับวัดแห่งนี้ เมื่อเหตุร้ายผ่านพ้นไปแล้ว ขอให้ทุกคนตั้งมั่นในการดำรงชีวิตด้วยความรอบครอบและขอเป็นกำลังใจ และขอชมเชยหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่เข้มแข็ง ชาวพุทธและมุสลิมสามารถอยู่ร่วมกันได้ดี ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนรักษาความดีนี้ไว้ เชื่อว่าความดีสามารถขับสิ่งที่เลวร้ายออกจากพื้นที่ได้

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บ้านรอตันบาตู ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส นายยะยาห์ ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส และสมาชิกโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านรอตันบาตู คอยให้การต้อนรับ โดยมีพ.อ.พงศกร แสงกุล รองหัวหน้าคณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯคณะที่ 3 ได้บรรยายสรุปผลความคืบหน้าในการดำเนินงาน ร่วมกับอีก 3 หน่วยงานหลัก ให้องคมนตรีได้รับทราบ พอสรุปใจความว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จัดซื้อที่ดิน จำนวน 716 ไร่ ในปี พ.ศ. 2547 โดยจัดสรรที่ดินออกเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนที่หนึ่ง จัดสร้างบ้าน150หลังในเนื้อที่หลังละ 2 ไร่ โดยแบ่งเป็นปลูกบ้านพักอาศัย และปลูกพืชส่วนครัว รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ ในส่วนที่สอง เป็นพื้นที่สำหรับสร้างโครงการฟาร์ม โดยแบ่งการดำเนินการให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านได้มีงานทำ คือ เครื่องปั้นดินเผา ปลูกข้าว เพาะพันธุ์ไม้พื้นเมือง ปศุสัตว์ และประมง ซึ่งผลผลิตที่ได้จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ และผลิตผลบางส่วนชาวบ้านจะนำไปขายที่ตลาดชุมชนและตลาดสด เพื่อเป็นรายได้เสริมของชาวบ้านแต่ละครอบครัว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกทั้งไทยพุทธและมุสลิม จำนวน 215 คน สามารถมีวิถีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้