ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี บูรณาการร่วม ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ตชด.11 เข้าจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง ขบวนการหลอกซื้อดาวน์รถยนต์ ก่อนเชิดรถหนีหายไป มีผู้เสียหาย 87 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ได้คาบ้านพักในพื้นที่ตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ได้รับการประสานจากชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ว่ามี น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ อายุ 32 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” หลบหนีการจับกุมเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า ผู้ต้องหาดังกล่าว หลบหนีมาอยู่กับอดีตสามี ที่ ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี
ต่อมา วันนี้ (3 ก.ค.62) เวลาประมาณ 17.30 น. ชุดสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี พร้อมตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. , สภ.เมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ อายุ 32 ปี ได้ที่บริเวณหน้าห้องพักคนงานบริษัทก่อสร้าง ม.6 ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ ผู้ต้องหา ร่วมกับ น.ส. ปวริศา หรือ ภัทธนันท์ นาครอด ผู้ต้องหาอีกราย ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนกว่า 80 คน โดยไปขอซื้อดาวน์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดจากผู้เสียหาย ที่โพสไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยเลือกตามยี่ห้อรถที่ได้รับ ออเดอร์จากนายทุน จาก จ.กาญจนบุรี จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ติดต่อขอซื้อดาวน์จากผู้เสียหายโดยไม่ได้เปลี่ยนสัญญา โดยหลอกว่าจะผ่อนต่อและเมื่อผ่อนครบ 1 ปี แล้วจะทำการเปลี่ยนสัญญาให้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อขายดาวน์รถให้กับผู้ต้องหาแล้ว จึงนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่หลอกซื้อมาไปส่งมอบให้กับ กลุ่มนายทุน บริเวณห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใน กทม. แล้วแต่จะนัดหมาย โดยได้ค่าจ้างคันละ 3,000 – 10,000 บาท จากนั้นนายทุนที่รับรถไปจะนำรถไปขายต่อในเพจรถหลุดจำนำ หรือ ชำแหละขายเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ โดยส่งขายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ หลอกลวงจำนวน 87 คน รวมรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวน 87 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้าน บาท
ทั้งนี้เมื่อประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 กลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 ราย ได้รวมตัวกันไปพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อให้ติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ซึ่งจากตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนหลายท้องที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ไว้แล้วจำนวนหลายสิบหมายจับ และ น.ส. ปวริศา หรือ ภัทธนันท์ นาครอด ผู้ต้องหาอีกราย ได้ถูกจับกุมตัวแล้วในวันเดียวกัน (3 ก.ค.62) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ จว.ชุมพร ถือว่าเป็นคดีที่น่าสนใจและมีผู้เสียหายจำนวนมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ และทำบันทึกจับกุมนำตัวส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทั่วไปทราบเป็นข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ไม่ให้ถูกผู้กระทำผิดหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป