ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ที่สวนลุงประภาส อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งเป็นสวนทุเรียนสาลิกา ได้เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดทุเรียนสาลิกา ของจังหวัดพังงา และเป็นหนึ่งในสวนที่ได้รับเครื่องหมาย G.I. และมาตรฐาน GAP บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมสวน เพื่อลิ้มชิมรสของทุเรียนสาลิกาถึงในสวน โดยมีลุงประภาส รอต้อนรับ พร้อมเล่าเรื่องราวของทุเรียนสาลิกา และแกะทุเรียนให้ชิมฟรีกันแบบจุกๆ ก่อนจะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนจะบอกมามากินทุเรียนสาลิกาถึงในสวนที่อำเภอกะปงนั้นเข้าถึงรสชาติของทุเรียนสาลิกาอย่างแท้จริง ขณะที่บรรยากาศของแผงขายทุเรียนสาลิการิมถนนของเกษตรกรนั้นก็มีความคึกคักไม่แพ้กันมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาซื้อกันตลอดทั้งวัน ทำให้ขายดีกันทุกร้าน ขณะที่ราคาจะอยู่ที่ ทุเรียนตัดกิโลละ200-300 บาท ทุเรียนหล่นกิโลละ 150-190 บาท และเกษตรกรได้ฝากบอกว่าขอให้คนที่ชอบกินทุเรียนสาลิการีบสั่งซื้อกิน เพราะปีนี้ผลผลิตมีน้อยกว่าทุกปี เนื่องจากเหตุฝนแล้งยาวนานกว่าปกติ
ลุงนายประภาส ยิ่งเจริญภักดี หรือ ก๋งซิ่น เล่าว่า “ทุเรียนสาลิกา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เรียนสากา” นับว่าเป็นราชาของทุเรียนบ้านเบอร์ 1 ภาคใต้ เป็นทุเรียนที่หลายคนต่างรอคอยที่จะลิ้มรสชาติในทุกๆ ปี โดยทุเรียนสาลิกามีแหล่งกำเนิดอยู่ในพื้นที่อำเภอกะปง ของจังหวัดพังงา เป็นทุเรียนที่มีรสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเมื่อปี 2561 และผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนจะมีคำพูดว่า “ถ้ามาพังงาแล้วไม่ได้กินทุเรียนสากา เหมือนมาไม่ถึงเมืองพังงา”ทุเรียนสาลิกา มีลักษณะผลค่อนข้างกลม เปลือกผลบาง หนามสั้นและค่อนข้างถี่ ผลดิบเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เมื่อผลแก่สีจะอ่อนลงเล็กน้อย และมีสีน้ำตาลอ่อนบริเวณร่องพู เมล็ดภายในส่วนใหญ่จะลีบ ขนาดเล็กเกือบทั้งหมด รสชาติหวานมัน และมีความหวานมากกว่าทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ เนื้อทุเรียนมีสีเหลือง เนื้อหนา ละเอียด ไม่มีเส้นใย เนื้อแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แต่ไม่ฉุน น้ำหนักต่อผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2.5 กิโลกรัม และที่สำคัญทุเรียนสาลิกาพันธุ์ของแท้ดั้งเดิมที่ปลูกในพื้นที่อำเภอกะปง บริเวณตรงกลางแกนเปลือกทุเรียนจะมีสีสนิมแดงทุกผล ซึ่งแตกต่างจากทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ สมกับที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาทุเรียนบ้าน”