2 กรกฎาคม 67 นางสาวพรนภา คำฟูบุตรผู้สื่อข่าว เจ้าของหอพักจีรชน บ้านศรีบุญยืน หมู่ 3 ต. เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวกรณี มีผู้เช่าหอรายหนึ่งได้นำพัดลมของหอออกไป และติดเงินกับเจ้าของหอ จำนวน 1500 บาท ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 67 จึงอยากประสานกับผู้สื่อข่าวช่วยตามตัว นายฉัตรชัย อายุ 28 ปี เข้ามาเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ และนำพัดลมมาคืนด้วย โดยภาพจะกล้องวงจรปิดเห็นนายฉัตรชัย ได้ขับรถออกจากหอพักไปกับเพื่อน โดยเพื่อนของนายฉัตรชัยจะสะพายกระเป๋าเป้ไปด้วย อีก 1 ใบ พร้อมกับมอไซค์ที่นายฉัตรชัยนำมาค้ำประกันไว้
นางสาวพรนภา เจ้าของหอพัก เล่าว่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อประมาณ วันที่ 4 มิถุนายน 67 นายฉัตรชัย ได้เข้ามาเช่าหอพัก และในวันดังกล่าวตนได้ส่งมอบพัดลมติดผนัง ยี้ห้อชาร์ป สีดำ ราคา 1,600 บาท จำนวน 1 ตัว เพื่อเอาไว้ใช้งานภายในห้องพัก โดยส่วมอบไปให้ทั้งกล่อง โดยแกะกล่องแค่ด้านบนดูแล้วส่งให้่นายฉัตรชัยไปประกอบใช้เอง ต่อมา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 67 เวลาประมาณ 17.00 น. นายฉัตรชัย ได้ขับรถจักรยานต์ฮอนด้า เวฟ110i หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 6810 ไม่ทราบจังหวัด เข้ามาในหอพัก แล้วถามยืมเงินกับเจ้าของหอพัก จำนวน 1,500 บาท และ นำรถมาจอดไว้ให้เพื่อเป็นการค้ำประกัน ว่าเจ้าตัวจะนำเงินมาไถ่คืน ด้วยความสงสารและความใจดี จึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายฉัตรชัยไป
จากนั้น เวลาต่อมา นายฉัตรชัย ได้เข้ามายืมรถที่นำมาค้ำประกันไว้ เพื่อจะไปเอาเงินมาไถ่คืน และต่อมา เวลา 19.00 น.วันเดียวกัน ก็ไม่สามารถติดต่อ กับนายฉัตรชัย ได้ จึงได้เข้าไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบว่าประตูไม่ได้ล๊อค จึงเปิดเข้าไปพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในห้อง และไม่มีทรัพย์สินส่วนตัวใดๆ ของนายฉัตรชัยฯ อยู่ภายในห้องดังกล่าว และพัดลมติดผนังที่ตนเคยมอบให้ได้หายไปด้วย ตนจึงเชื่อว่านายฉัตรชัยฯ เป็นผู้ที่เอาพัดลมติดผนังดังกล่าวไป เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เวลาต่อมาจึงได้เข้าไปร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน ที่ สภ. เมือง ลำพูน เพื่อดำเนินคดีกับนายฉัตรชัย ในความผิดฐานลักทรัพย์
ล่าสุดนางสาวพรนภาฯ เจ้าของหอพัก ได้สืบค้นหาตัวนายฉัตรชัยฯ จนรู้ว่าไปอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง ใน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งห่างจากหอพักตนเองไป ประมาณ 7-8 กิโลเมตร ตนจึงรีบโทรศัพท์เข้าไปแจ้งกับพนักงานสอบสวน แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้ยกคดี ให้กับเจ้าหน้าที่ท่านอื่นไปทำแล้ว และรอหมายเรียกตัวของนายฉัตรชัยฯ อีกรอบ ก่อนถึงจะดำเนินการได้ต่อไป ตนจึงได้ร้องกับผู้สื่อข่าวเพื่อช่วยเหลือคดี เกรงว่านายฉัตรชัยฯ จะไหวตัวทันและได้หลบหนีไปอีก ทั้งนี้ตนไม่ต้องการที่จะได้รับของคืนแต่อย่างไร แค่อยากให้ผู้ก่อเหตุออกมายอมรับความจริง และเข้ามาขอโทษตน เพื่อที่จะไม่ได้เป็นตัวอย่างให้คนอื่น และจะไม่ไปทำตัวแบบนี้กับหอพักอื่นๆในจังหวัดลำพูน