มุกดาหาร สบอ. 9 เข้าตรวจสอบพื้นที่แนวเขตวัดภูมโนรมย์หลังมีการร้องเรียน
มุกดาหาร/เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2562 ที่ห้องประชุมดอกช้างน้าว ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นาย ชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มอบหมายให้ นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี และผู้แทนวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหากรณีมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ก่อสร้างพญานาค และสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ
นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อร้องเรียน กรณีวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ โดยอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบได้แจ้งว่าได้ตรวจสอบในพื้นที่เพิ่มเติม พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างบริเวณวัดที่รุกล้ำแนวเขตอุทยาน ได้แก่ บ่อพักน้ำทางขึ้นวัด 2 แห่ง โรงเผาขยะ และถนนทางเข้า 1 แห่ง ถังบำบัดน้ำเสีย จากห้องน้ำและกุฏิ จำนวน 2 แห่ง เต้นท์ผ้าใบ จำนวน 1 หลัง และไฟสปอร์ตไลท์บริเวณองค์พญานาค จำนวน 2 เสา นั้น วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ชี้แจงว่า การก่อสร้างองค์พญานาค และสิ่งปลูกสร้างในเขตที่ดินวัด ตามเอกสารสิทธิ์ที่ดิน (น.ส.4 จ.) พื้นที่ประมาณ 66 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ซึ่งออกโดยกรมที่ดินเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 และสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในความรับผิดชอบของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์นั้น มีจำนวน 3 รายการ คือ องค์พญานาค เต็นท์ผ้าใบจำนวน 1 หลัง และเสาไฟสปอร์ตไลท์บริเวณองค์พญานาค จำนวน 2 เสา ส่วนสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นเป็นของส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ทางวัดมีเจตนาบริสุทธิ์ในการดำเนินการก่อสร้าง และได้ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ตามเอกสารสิทธิ์ที่ดินของวัด
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตำแหน่งของเขตที่ดินวัด ตามค่าพิกัดในแบบรังวัด จากการรังวัดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 และเมื่อตรวจสอบค่าพิกัดเขตที่ดินดังกล่าวกับแนวเขตพระราชกฤษฎีกาของอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ พบว่ามีความเหลื่อมกัน ได้แก่ บริเวณหมุด 9ง 5135 ถึง 9 ง 4139 (ด้านหลังองค์พระใหญ่) ส่วน 9ง 8471 ถึง 9ง 1355 (บริเวณองค์พญานาค) แนวเขตที่ดินวัดตามข้อมูลแบบรังวัด (ระบบพิกัดฉาก) และแนวเขต อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบตรงกัน ซึ่งต่อมาคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนรังวัด แนวเขตที่ดิน ป่าไม้สํานักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์และอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบได้ร่วมกันตรวจสอบ พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างบริเวณวัดที่รุกล้ำแนวเขตอุทยานอยู่อีกจำนวนหนึ่ง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แจ้งหนังสือถึงวัดภูมโนรมย์ สำนักพุทธศาสนา และ ผวจ.มุกดาหาร ในวันนี้ได้มาดำเนินการตรวจสอบแนวเขต เพื่อที่จะมีความชัดเจนว่า การตรวจสอบแนวเขตมีพื้นที่บางส่วนทั้ง 2 ฝ่าย ยังเข้าใจว่าอยู่ในที่ครอบครองของตน สรุปผลว่า รอง ผวจ.มุกดาหาร
ขอปรับในขั้นตอนเนื่องจากทางวัดยังไม่ได้ยื่นสิทธิ์สอบเขตให้ครบรอบทั้งหมดทั้งแปลง และในวันนี้มีมติในที่ประชุม และขอบคุณ ผวจ.มุกดาหาร แม่ทัพภาค 2 และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้เข้าประชุมด้วยมีมติว่า ให้ทางวัดยื่นหนังสือสอบเขตภายใน 15 วัน ครั้งที่แล้วยื่นไปแล้วแต่ไม่จบ จะยื่นใหม่ภายใน 15 วัน วัดจะยื่นสอบเขตที่ดินโฉนด 66 ไร่เศษว่าอยู่จุดใด มีการซ้อนทับหรือว่าส่วนของพญานาคที่สร้างในตรงนี้มันเข้าหรือไม่เข้า ถ้าไม่เข้าถือว่าการร้องเรียงที่ร้องกับกรมอุทยานฯ ถือว่าทางวัดได้ทำถูกต้องอันนี้ส่วนหนึ่ง ก็อยากชี้แจง ให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย แต่ถ้าบางส่วนเมื่อชี้เขตแล้ว ทางวัดเข้าใจว่ามีหมุดของวัดที่ดินของวัดอยู่ด้านนอก เข้าใจว่าที่ดินส่วนหางของพญานาคก็อยู่ในเขต ถ้ามันไม่ใช่มีการขยับแนวเขต ขยับหมุดอันนี้ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมายตามระเบียบ แต่ถ้าอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกาของอุทยานฯ แล้วก็อยู่โฉนดของวักบางส่วน ในส่วนของรุกล้ำก็ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน มี 2 เรื่องคือ ทางวัดเจตนาหรือไม่ที่จะบุกรุก ถ้าวัดยืนยันว่ายังจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้อยู่ และยังเชื่อว่าอยู่ในเขตวัด เขตโฉนดอันนี้ก็ต้องไปสู้กันในขบวนการยุติธรรม และแจ้งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ของอุทยานฯ ว่าไปตามขบวนการ ถ้าวัดเชื่อว่ามีการปักหมุดนอกเขตแล้วเชื่อโดยสนิทใจว่า มันเป็นโฉนดที่ดินของวัดมาตั้งแต่แรก อันนี้ก็อาจจะดูว่าวัดมีเจตนาหรือไม่ ถ้าเห็นแล้วมีการแก้ไข สรุปแล้วถ้าเป็นการสร้างล้ำเข้าไป และแก้ไขโดยด่วนทางวัดขาดเจตนา อันนี้ก็มาว่ากันในขบวนการ ฉะนั้นทางคณะกรรมการจะมาลงความเห็นกันอีกครั้งหนึ่ง และในวันนี้เป็นกรอบที่ดี ในการพูดคุยหาทางออกที่ดี มีการร้องเรียน 2 เรื่อง คือเรื่องของการบุกรุกล้ำในส่วนของหางพญานาค ส่วนที่ล้ำไปแล้วมันจะออกมาในการบริจาค โดยใช้ทรัพย์ของอุทยาน หรือทรัพย์ของแผ่นดิน ไปหาผลประโยชน์หรือไม่ และอยากคุ้มครองเรื่องการท่องเที่ยวอยากให้วัดประจำจังหวัดถูกต้อง สวย และใสทั้งเรื่องของกฎหมาย และเรื่องของศิลปวัฒนธรรมที่สร้างไว้อีกด้วย
นายศักดิ์สิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการรายงานที่ประชุม ทั้งสองฝ่าย พบว่า ในส่วนของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ชี้แจงว่าการก่อสร้างทั้งหมดอยู่ในเขตวัด ตามเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่กรมที่ดินออกให้ ในส่วนของอุทยานแห่งชาติ ชี้แจงว่าตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ตรวจสอบแล้วพบว่า วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ รุกล้ำพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งยังเป็นข้อพิพาทในเรื่องของการใช้พื้นที่ ที่ยังไม่มีข้อสรุปและข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ที่ประชุมจึงได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาและหาทางออกร่วมกัน กรณีสิ่งปลูกสร้างวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์จังหวัดมุกดาหาร รุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมีนายสิทธิลักษ์ จิตอาคนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร นายก่อเกษม สุขสานต์ ไวยาวัจกรวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ พันเอกยุทธนา มหาวัน รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมุกดาหาร นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และผู้เข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้อง ได้หารือเพื่อหาทางออกเนื่องจากเกิดประเด็นความเข้าใจในเรื่องแนวเขตของโฉนดที่ดินของทางวัด และแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ตามท้ายพระราชกฤษฎีกาไม่ตรงกัน จึงได้หารือร่วมกันในที่ประชุมได้ข้อสรุป โดยทางวัดพระพุทธบาทภูมโนรมย์ยินยอมที่จะยื่นขอรังวัดที่ดิน (น.ส.4 จ.) โฉนดที่ดินเลขที่ 62451 เลขที่ดิน 1 เล่มที่ 625 หน้าที่ 51 หน้าสำรวจ 6774 ตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองจังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 66 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ออก ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 กับสำนักงานที่ดินจังหวัด เพื่อสอบเขตใหม่ทั้งแปลง โดยให้ทางวัดดำเนินการแจ้งยื่นเพื่อขอสอบเขตภายใน 15 วัน โดยจังหวัดมุกดาหาร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วม ตรวจสอบรังวัด ด้วย เพื่อความถูกต้อง และเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และหลังจากรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวเขต ของโฉนดที่ดินของทางวัดและแนวเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบแล้วจะได้ดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร
081-0501177