2 สิงหาคม 67 พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้เดินทางมายังกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีประเทศไทย และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ที่มีกำหนดการจะเดินทางมาเยียนพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ในการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 และการดำเนินงานตามนโยบายเมืองคู่แฝด ในวันที่ 3 ส.ค.67 จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ในการซักซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัย ที่บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลกแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดี
ซึ่งการรักษาความปลอดภัยแยกเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ชั้นในบริเวณด่านพรมแดน เป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่อง ในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุคคลต้องสงสัยที่หลุดรอดผ่านจุดตรวจต่างๆ ที่ 2 นายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย ต้องมีการพูดคุยที่ห้องประชุมชั้น 2 ของด่านศุลกากร พื้นที่ชั้นกลาง เป็นเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ชุดอี.โอ.ดี. และทหาร ปฏิบัติหน้าที่รอบอาคารด่านศุลกากร ที่ต้องใช้กำลังกว่า 100 นาย ในการคัดกรองบุคคลเข้าเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน และพื้นที่รอบนอก เป็นกำลังเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่จุดมุมอับ โดยก่อนเข้าพื้นที่ชั้นกลางจะมีเจ้าหน้าที่ทหารและกองอาสารักษาดินแดน ตรวจสอบเข้าบุคคล ยานพาหนะทุกชนิดที่เข้าสู่พื้นที่ชั้นกลาง ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่คุมเข้ม 3 ส่วน เนื่องจากพื้นที่ด่านพรมแดนเป็นพื้นที่เปิด จะมีประชาชนทั้ง 2 ฟากฝั่งเดินทางเข้าออกประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุดราชการเสาร์และอาทิตย์
นอกจากนี้ พล.ต.เฉลิมพร ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ลงเรือลาดตระเวนในแม่น้ำโก-ลก เพื่อตรวจความพร้อมการปฏิบัติหน้าที่ทางน้ำ โดยเฉพาะในช่วงใต้สะพานข้ามพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดหรือพื้นที่ก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ที่มีชุมชนอาศัยอยู่หนาแน่น จะมีเจ้าหน้าที่ทหารและกองอาสารักษาดินแดนให้การรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณริมตลิ่งและตามช่องทางข้ามธรรมชาติที่ได้มีการผ่อนปรน ในการป้องกันและสกัดกั้นเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งการการตรวจสอบความพร้อมเป็นที่น่าพอใจ พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกจุด ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มและแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 06.00 น.ของวันที่ 3 ส.ค.67
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พล.ต.เฉลิมพร ผบ.ฉก.นราธิวาส ยังได้ให้การต้อนรับนายอับดุลลาซัด บินฟารีฟ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย และนายบาครี บินสุไลมาน ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย และคณะ ที่เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อตรวจความพร้อมห้องประชุมชั้น 2 อาคารด่านศุลกากร ซึ่งเป็นสถานที่ 2 นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ฝ่ายรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 และการดำเนินงานตามนโยบายเมืองคู่แฝด ก่อนที่นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีและนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จะร่วมเดินทางไปยัง Pasir Mas District and Land Office ซึ่งทั้ง 2ฝ่ายจะเข้าร่วมการหารือทวิภาคีแบบกลุ่มใหญ่ต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการสร้างสะพานคู่ขนานแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 นั้น โดยรูปแบบของสะพานมีความยาวทั้งหมด 16 เมตรบวกหัวท้ายอีก 2 เมตร ซึ่งแบ่งช่วงสแพน 30 เมตร 3 ช่วง และด้านหัวท้ายเป็นช่วงสแพน 12 เมตร ซึ่งความกว้างของสะพาน 14 เมตร เป็นช่องจราจรรถยนต์ 2 ช่อง ช่องละ 3.50 เมตร รวม 7 เมตร และช่องรถจักรยานยนต์ 2.50 เมตร รวมถึงมีช่องทางคนเดินอีก 2.50 เมตร พร้อมทำหลังคาคลุมเพื่ออำนวยประชาชนในการเดินข้ามฝั่งตัวแบบของสะพานมี 2 ช่องจราจรและทางเดินรถจักรยานยนต์ 1 ช่อง สถาปัตยกรรมออกแบบเป็นรูปเรือกอและ เพื่อสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นของ 2 ประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 160 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างตัวสะพานอย่างเดียว 110 ล้านบาท และงานถนนสิ่งประกอบในฝั่งไทยอีกประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งไทยและมาเลเซียอนุมัติแบบการก่อสร้างเป็น Detail Design และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีการลงนามข้อตกลงในการก่อสร้าง ที่ได้แต่งตั้งร่วมกันรวมถึงมีการกำหนดเขตก่อสร้างจากนั้น ตุลาคม 2567 จะเริ่มดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ในการก่อสร้างสะพานแห่งที่ 2 นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดูงบประมาณว่าจะเป็นงบของมาเลเซียด้วย หรือว่าเป็นงบของไทยทั้งหมด
นูอารีซ๊ะ ยะยือริ รายงาน