2 สิงหาคม 67 ที่ท่าเรือ พีเคมารีน เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคเอกชนพันธมิตร ร่วมทำการตรวจปล่อยเรือลำเลียงส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อการส่งออก โดย บริษัท ปาโก้เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นอีกบริษัทในเครือบริษัทเพชรศรีวิชัย หรือ (PCE) สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังประเทศอินเดีย ประเทศมาเลเซีย และส่งออกน้ำมันเมล็ดในปาล์มผ่านกรรมวิธีไปยังประเทศจีน ในรอบนี้ 48,000 ตัน โดยส่งออกจากฝั่งอ่าวไทย จานวน 16,000 ตันและฝั่งอันดามันจำนวน 32,000 ตัน
นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล กล่าวว่า บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร ตั้งแต่ การผลิต สกัดน้ำปาล์ม คลังสินค้า โรงกลั่นและขนส่ง ทั้งภายในประเทศและส่งออก ซึ่งทางบริษัทได้ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมสนองนโยบายรัฐบาลในการลดสต๊อกน้ำมันปาล์ม เพื่อระบายสต็อกสร้างสมดุลให้กับปริมาณและราคาผลผลิตปาล์มทั้งระบบ และปัจจุบัน ยังคงได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าต่างชาติ ที่เชื่อมั่นในความปลอดภัยในการโจรกรรมทางทะเลมากขึ้น เนื่องจากมีหน่วยงานราชการให้การดูแลความปลอดภัยทางทะเล เช่น ศรชล. ตำรวจ ตม. ขณะที่ศักยภาพการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ จากทั้งสองฝั่งทะเล คืออันดามันและอ่าวไทย สามารถส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตันต่อปี
ด้านอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยในการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ที่ 3 ล้านตันต่อปี แบ่งเป็นใช้เพื่อบริโภคในประเทศ 1 ล้านตัน ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล 1 ล้านตัน เหลืออีก 900,000 – 1 ล้านตัน ก็จะต้องดำเนินการส่งออก เพื่อไม่ให้น้ำมันปาล์มล้นสต็อก จนเกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ซึ่งรัฐบาล โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันทั้งระบบให้มีความสมดุล โดยปี 2567สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้แล้ว 4 แสนตัน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำได้ตามเป้าส่งออกไม่ต่ำกว่า 9 แสนตัน โดยรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมมาตรการผลักดันการส่งออกเพิ่มขึ้นและขณะนี้ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรมีแนวโน้มดีขึ้น อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ก็ขอฝากถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่จะต้องผลิตปาล์มคุณภาพ ซึ่งเป็นต้นน้ำของวงจรการผลิตน้ำมันปาล์ม ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับปาล์มน้ำมันทั้งระบบ.