กอ.รมน.จว.เขียงราย พร้อม รอง ผบ.ฉก.ม.2 ร่วมกับจังหวัดเชียงราย…อำเภอเชียงแสน…รับตัว นายสิงห์แก้ว ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน จาก สปแ.ลาว… หลังถูกจับเรียกค่าไถ่….
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2562 เวลา 15.20 น. พันเอก พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พันเอก วุทธิพัฒน์ ปรัชญ์ฐากรณ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 ร่วมกับ ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน , นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ, พันตำรวจเอก ชาญชัย เชาว์เกษม รอง ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภาค 5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเชียงแสน, กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 217, ตำรวจน้ำ, ฝ่ายปกครอง, หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย , ศปปข.(ส่วนหน้า) ทหารกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อรับตัวนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จากกรณี ถูกคนร้ายอุ้มลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท ที่ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตรงข้าม อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณด่านพรมแดนเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
ซึ่งทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ให้การช่วยเหลือพร้อมให้การดูแลที่เมืองห้วยทราย เมืองเอกของแขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้ามอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้กลับมาแล้วอย่างปลอดภัย โดยมีนางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยา น.ส.รสริน วงศ์ใหญ่ บุตรสาว และนายประภาส วงศ์ใหญ่ บุตรชายของนายสิงห์แก้วพร้อมด้วยญาติต่างเดินทางไปรอรับด้วยความดีใจ
ด้านนายสิงห์แก้ว ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนด้วยความดีใจที่ให้การช่วยเหลือตนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ยังมีอาการเพลีย และมีอาการป่วยที่พึ่งหายจากเส้นเลือดสมองตีบ และมีอาการบาดเจ็บตรงขาขวา ซึ่งทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของจะได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป เบื้องต้นพบว่านายสิงห์แก้วมีสุขภาพที่แข็งแรงดีอยู่โดยมีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาและร่องรอยหญ้าหรือวัชพืชบาดตามบริเวณลำตัวในช่วงที่หลบหนีการถูกคุมขังจากกลุ่มคนร้าย
ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ กล่าวว่า การช่วยเหลือนายสิงห์แก้วครั้งนี้ ประสบความสำเร็จได้ด้วยการที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ร่วมมือกันทุกฝ่าย รวมทั้งอาศัยความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย – สปป.ลาว ทั้งระดับส่วนกลางและท้องถิ่น โดยเจ้าแขวงบ่อแก้วที่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี กระนั้นในส่วนของการสืบสวนคดีความนี้ก็คงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางญาติได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.เชียงแสน แล้ว ส่วนทาง สปป.ลาว นั้น ก็จะมีการสืบสวนคลี่คลายคดีต่อไป โดยทางการไทยยินดีจะให้ความร่วมมือในการจัดส่งข้อมูลให้ต่อไป ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่ได้มีการขอข้อมูลใดเพิ่มเติม
ด้าน พันตำรวจเอก ชาญชัย กล่าวว่าทาง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในเรื่องนี้ให้สำเร็จอย่างเต็มที่และหลังจากเหตุการณ์นี้แล้วนี้ทางเจ้าหน้าที่ทั้งไทย – สปป.ลาว ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านกิจการชายแดนยังคงมีการจัดประชุมหารือกันอย่างต่อเนื่อง และคงจะมีการหยิบยกประเด็นนี้เข้าไปหารือด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อไปทำให้ประชาชน นักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถมั่นใจได้ว่าชายแดนด้านนี้มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การร่วมมือระหว่างคณะประสานงานชายแดนของฝั่งไทย และ สปป.ลาว ในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ของการประสานงานชายแดนในระดับพื้นที่ ของฝ่ายทหาร ตำรวจ ศาลปกครอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความร่วมมือกันต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ 12 ด่าน ซึ่งจะนำความสำเร็จและความร่วมมือนี้ มาใช้เป็นแนวทางในการประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานด้านความมั่นคงของต่างประเทศ เพื่อร่วมกันหยุดยั้งภัยคุกคามจากอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตามนโยบายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนอบอุ่นใจ และปลอดภัยจากอาชญกรรมในทุกรูปแบบ