ชาวบ้านแตกตื่น ตะโกนบอกคนขับรถพ่วงบรรทุกฟางว่าไฟไหม้ๆ คนขับหันมาเห็นรีบเลี้ยวเข้าข้างทางช่วยกันดับไฟโกลาหล
เกิดเหตุไฟไหม้รถไถพ่วงบรรทุกฟางมาเต็มคัน บริเวณถนนหนองแสงตอ หมู่ 12 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.พรหมณี พร้อมผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้ช่วยกันดับเพลิงกันอย่างโกลาหล จนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
จากการสอบถาม นางนภา ชาวกัณหา แม่ค้าขายผัดไทยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ตนเองกำลังขายของและมีลูกค้านั่งกินอาหารอยู่ในร้าน จากนั้นลูกค้าได้เดินออกมานอกร้านเพื่อมาสูบบุหรี่ขณะนั้นเองลูกค้าของตนได้สังเกตเห็นรถไถพ่วงบรรทุกฟาง มีไฟติดที่ท้ายพ่วง จึงรีบตะโกนบอกคนขับว่าไฟไหม้ฯ แต่คนขับรถพ่วงฟังไม่ได้ยินและก็ได้มีคนช่วยกันตะโกนบอกและส่งสัญญาณให้จอดเข้าข้างทาง จากนั้นคนขับมีสติรีบถอดสลักรถพ่วงออกแล้วขับรถไถออกห่างจากที่เกิดเหตุ คาดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้รถพ่วงบรรทุกฟางมันน่าจะเป็นเหล็กเก่า ในขณะวิ่งมามันน่าจะเสียดสีก่อให้เกิดประกายไฟและลุกติดกับฟางบวกกับไฟไปติดล้อยางรถพ่วงจึงทำให้ไฟได้ลุกไหม่อย่างรวดเร็ว
ด้านนายอุดม กรองจันดา คนขับรถพ่วงบรรทุกฟางเล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตัวเองขับรถขนฟางมาจากหน้า รร.จปร. ขับมาเรื่อยๆจนถึงกลางทางถนนเส้นนี้ ก็มีคนทักมาเรื่อยๆ ไอ้เราก็คิดว่าคนรู้จักก็ไม่ได้คิดอะไรก็นึกว่าเพื่อนทักเป็นเรื่องธรรมดา ไอ้เราก็หันไปก็ไม่เห็นมีอะไรพอมาถึงร้านค้าก็มีคนตะโกนบอกว่าไฟไหม้ ไฟไหม้ เราจึงเบรคพอเบรคปุ๊บไฟมันก็ไปข้างหลังพอรถหยุดมันก็โหมมาข้างหน้า ผมจึงรู้ว่ารถไฟไหม้ ก็เลยรีบเลี้ยวหาที่จอดหลบข้างทาง แล้วตั้งสติมุดไปถอดสลักพ่วงออกแล้วรีบขับรถไถถอยออกห่าง ถ้าผมไม่ตั้งสติหลังผมคงไหม้ไปด้วยทั้งคนทั้งรถ โชคดีไหม้แค่รถพ่วงและฟางที่บรรทุกมา ค่าเสียหายก็ตกประมาณหมื่นกว่าบาท แต่ก็ยังงงว่าไฟมันมาจากไหนแล้วมันติดไฟมาตอนไหน
เนรมิต มงคลกิตติกานต์
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก