วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการเกษตร อาทิ โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองลับแล เมืองที่ขึ้นชื่อถึงความมหัศจรรย์ของผลไม้ อย่างเช่น ทุเรียนหลง-หลินลับแล ลองกอง เมืองงามสามวัฒนธรรม ซึ่งมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ทั้งภาษาและศิลปะ รวมถึงโครงการพัฒนาอาชีพส่งเสริมรายได้ของประชาชน ( Soft Power of Uttaradit) โดยมีแผนการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะซอฟต์พาวเวอร์ระดับท้องถิ่นสู่ระดับชาติ และเยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP เทศบาลตำบลหัวดง อำเภอลับแล รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการจัดการที่ดินทำกินของประชาชน ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมต้อนรับ โดยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากเห็นหน้านายกสักครั้งในชีวิต
ทั้งนี้นายกได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า วันนี้โอกาสมาพบพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์มีศักยภาพในการผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวสูง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวภายจังหวัดอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งทางรัฐบาลจะเข้าได้หารือกับทาง ททท. ในการจัดตั้งสำนักงานการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยทำให้ทุกๆเดือน เป็นเดือนของ high season ซึ่งจากนี้อีก 2 ปี จะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ขับเคลื่อนศิลปะพื้นบ้าน คือ มวยท่าเสา ซึ่งเป็นศิลปะในท้องถิ่นให้เป็นนซอฟต์พาวเวอร์ระดับจังหวัด นอกเหนือจากนั้นจะยกระดับการส่งออกและราคาผลไม้เศรษฐกิจ อย่างทุเรียนและลองกอง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการส่งออกไปยังจีนและลาว หากมีการผลักดันด่านภูดู่ให้เป็นด่านศุลกากร และมีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้ดีขึ้น จะสามารถส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นไปยังประเทศที่สามได้
นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน
