30 กันยายน 67 ที่ชุมชนหนองยาง เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางนงลักษณ์ ชัยชาญ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมให้ความช่วยเหลือราษฎรที่อาศัยอยู่ในเขตรับผิดชอบ ครอบครัวของ นายบุญมี (นามสมมุติ) อายุ 82 ปี ซึ่งมีอาชีพขอทานเลี้ยงชีพมาหลายสิบปี
ผอ.นงลักษณ์ กล่าวว่า จากในกรณีที่ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้ตรวจพบผู้กระทําการขอทาน คือ นายบุญมี บุคคลดังกล่าว มีรายได้หลักมาจากการขอทาน ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ประมาณวันละ 600-800 บาท จากนั้นได้มีการสืบต่อข้อมูลพบว่าครอบครัวนี้ ได้ทําการขอทานเป็นอาชีพมาเป็นระยะเวลานาน เพราะว่าไม่มีเงินเลี้ยงชีพ โดยพบว่าในครอบครัวมีบุคคลที่ต้องดูแลอยู่ จำนวน 8 คน มีทั้งผู้สูงอายุและมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 คน มีผู้ป่วยโรคประจําตัว 2 คน มาอาศัยเช่ากระท่อมน้อยอยู่กลางป่าอ้อย ของชาวบ้าน ในราคา ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท จากนั้นจึงเข้ามาประสานงานและให้คำแนะนำ เพื่อให้การช่วยเหลือเพื่อที่จะยุติไม่ให้เขาทํางานขอทาน แล้วก็ให้เขาทำงานที่ดีมีอนาคตที่ดีกว่านี้ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างมีคาวมสุข ซึ่งบุคคลที่มาอาศัยอยู่รวมกันนี้ ต่างคนต่างอยู่คนละที่ แล้วมาอยู่ด้วยกัน อยู่รวมกัน บางคนก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นญาติ แต่เขาก็ยังดูแลกันซึ่งกันและกัน ก็เลยมองว่าเขาควรที่จะให้การช่วยเหลือกัน เพราะอย่างน้อยเขาก็มีน้ำใจดูแลซึ่งกันและกัน เบื้องต้นในการดําเนินการครั้งนี้เราจะได้มีการพูดคุยใช้ทั้งกระบวนการป้องปราม แล้วก็เรื่องของการที่จะช่วยเหลือโดยที่ได้รับความรู้จากทั้งทางตํารวจด้วย เพราะว่า ตอนนี้การขอทาน เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ในการกระทําผิดแล้ว ก็ต้องถูกตํารวจจับ และต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย แต่ นายบุญมี ก็ยังคงหวนกลับไปนั่งขอทานดังเดิม จึงได้มีการปรับทัศนคติ
หลังจากนั้นก็ได้มีการยื่นข้อเสนอไป ในการห้ามไม่ให้เขาขอ เราใช้กฎหมายบังคับแล้วว่าไม่ให้ขอ แต่เราก็ต้องดูด้วยปากท้องเขาด้วย เราก็ต้องมาช่วยเหลือ เรื่องการกินอยู่ จึงได้เข้ามาดูแลเรื่องปากท้อง และประสานภาคีเครือข่าย เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน และทางเทศบาลฯ ก็ได้มาร่วมในเรื่องของการเอาถุงยังชีพมาให้เบื้องต้น สถานการณ์ช่วยเหลือในเรื่องของต่อไป เราก็จะเดินเข้าเรื่องการช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วย ทั้งเรื่องของ คนพิการ และเรื่องเงินสดต่างๆ โดยในเบื้องต้น นายบุญมี ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีบัตรคนพิการ เนื่องจากที่ผ่านมา นายบุญมี ไม่ยอมรับข้อเสนอหรือสวัสดิการความช่วยเหลือใดๆ จึงยังไม่สามารถได้รับเงิน 10,000 บาท ของรัฐบาลในรอบนี้ทัน เพราะเพิ่งยอมรับทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และขึ้นทะเบียนเป็นผู้พิการเมื่อไม่กี่วันมานี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ จะมาเสริมพร้อมควบคู่กับเรื่องการเลี้ยงชีพด้วย เพื่อให้เขาสามารถอยู่ได้อย่างปกติสุข อยู่ได้เป็นศักดิ์ศรีของคนเป็นมนุษย์
ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะภาคีเครือข่าย จึงได้ระดมสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องนุ่มห่ม เพื่อเป็นกำลังใจสนับสนุนให้เขาเลิกทำอาชีพขอทาน เพราะผิดกฎหมาย และส่งเสริมให้ทำอาชีพที่สุจริต ในการหาเลี้ยงชีพต่อไป
บุญทัน ธุศรีวรรณ รายงาน