ผบ.ตร.สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วม สั่งตำรวจทุกหน่วยเร่งบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชน คุมเข้ม ตรวจตรา ป้องกันอาชญากรรมซ้ำเติมประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติ เน้นย้ำผู้บังคับบัญชาดูแลครอบครัวตำรวจที่ได้รับผลกระทบด้วย
วันนี้ (1 ต.ค.66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการช่วงสถานการณ์น้ำท่วมว่า “ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ฉบับที่ 14 (261/2566) ซึ่งยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มกำลัง
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ขานรับนโยบาย ได้มีวิทยุสั่งการด่วนที่สุด กำชับตำรวจดูแลพี่น้องประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ดังนี้
ให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นหัวหน้ารับผิดชอบการปฏิบัติของตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ คอยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยเกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยวางแผนให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่
พื้นที่ประสบภัยพิบัติที่พี่น้องประชาชนต้องละทิ้งบ้านพักที่อยู่อาศัย นำทรัพย์สิน ยานพาหนะมาเก็บไว้ที่สูงตามศูนย์อพยพ ไหล่ทาง ผิวถนนต่างๆ ให้พิจารณามาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสทำผิดต่อทรัพย์สิน เครื่องมือเกษตร หรือกระทำอื่นใดอันเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน กรณีในเขตพื้นที่เมือง ศูนย์อพยพให้พิจารณาการตั้งจุดตรวจป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้อพยพจำนวนมาก
ให้จัดชุดมวลชนชุมชนสัมพันธ์ จิตอาสา สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แล้วบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลือ กรณีสถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจและครอบครัวได้รับความเสียหาย ให้รวบรวมรายงาน เพื่อ ตร.จะได้เร่งช่วยเหลือต่อไป
ให้ตำรวจทางหลวงสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุ กรณีนำรถมาจอดไหล่ทาง และอำนวยความสะดวกจราจร รวมทั้งป้องกันทรัพย์สินสูญหาย ส่วนตำรวจน้ำสนับสนุนเฝ้าตรวจตราป้องกันอาชญากรรมที่จะซ้ำเพิ่มความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน ส่วนตำรวจ ตชด. , สกบ. (สำนักงานส่งกำลังบำรุง) ให้สนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ ยานพาหนะ กองบินตำรวจให้เตรียมความพร้อมการอพยพช่วยเหลือประชาชน ตำรวจ รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือทางการแพทย์ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.”
