ผู้บริหารธนาคารออมสิน ระดับภาคจากขอนแก่น รับฟังปัญหาชาวบ้านสมาชิก กทบ.38 กองทุนร้องเรียน อ้างถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินสาขากุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ยักยอกเงินกว่า 30 ล้านบาท
วันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายเสวต ศรีโยธี ประธานเครือข่าย กทบ.อ.กุฉินารายณ์ พร้อมด้วยประธาน กทบ.และกรรมการ กทบ. ตัวแทนสมาชิก กทบ.ในอ.กุฉินารายณ์ จำนวน 38 กองทุนกว่า 100 คน ร่วมให้ข้อมูลกับผู้บริหารออมสินระดับภาคจากจ.ขอนแก่น กรณีมีสมาชิกร้องเรียนถูกเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินกองทุน ซึ่งเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย จำนวนสูงเกือบ 30 ล้านบาท
โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด มีการแจ้งปัญหา และเจรจาพูดคุย ถึงแนวทางการรับผิดชอบความเสียหายแก่กองทุนหมู่บ้าน 38 กองทุน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ ยักยอกเงินจากบัญชีมูลค่าความเสียหายรวมมากถึง 29,286,566 บาท
นายเสวต ศรีโยธี ประธานเครือข่าย กทบ.อ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หรือ สทบ. สาขา 4 (จ.ร้อยเอ็ด) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและยืนยันข้อเท็จจริงแล้วว่ามีการยักยอกจริง นอกจากนี้ยังอาจทำกันเป็นขบวนการอีกด้วย
นายเสวต กล่าวอีกว่า กรณีเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินกองทุนดังกล่าว ปรากฎชัดเจนเมื่อวันที่ 4 ส.ค.66 ที่ผ่านมา หลังจากมีระแคะระคายมานานเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งรับรู้รับทราบกันทั่วไปว่าเป็นผู้หญิง และรับผิดชอบกองทุน กทบ.ในอ.กุฉินารายณ์
“ทุก กทบ.จะปิดงบดุลประจำปีไม่เกินสิ้นปี หลังจากนั้นนำบัญชีของกองทุน ของสมาชิก และเอกสารส่งธนาคารออมสิน โดยแนบเอกสารโครงการยื่นกู้ในปีถัดไปด้วย ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาไม่เกิน 1 สัปดาห์ สามารถเบิกจ่ายเงินให้สมาชิก ไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ที่ขอกู้ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไปติดตามทวงเงินมาโดยตลอด แต่ถูกเจ้าที่คนดังกล่าวบอกว่าเอกสารยังไม่เสร็จ ไปถามผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์อ้างบอกไม่รู้ๆ ขณะที่วงในทราบว่าเงินกองทุน ของทุกกองทุนๆละ 1 ล้านบาท ได้ถูกถอนไปหมดแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทราบตอนหลังว่า ทุกกองทุนฯ ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ทำให้ประธาน กทบ.คณะกรรมการ กทบ.ทั้ง 38 แห่ง สมาชิกทบ.จำนวน 6,840 คนได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องการเงินที่ขอกู้ไปประกอบอาชีพ และใช้จ่ายในครัวเรือน นอกจากนี้ จากการไปติดตามทวงถามกับทางธนาคาร ได้คำตอบว่าเอกสารไม่มี ซึ่งเท่ากับว่ามีการทำลายหลักฐาน และเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหายตัวไปตั้งแต่วันที่4 ส.คแล้ว จึงได้ปรึกษากันและหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยในช่วงนี้ทราบว่ามีสมาชิกไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์แล้ว 3 คน ส่วนแนวทางของ กทบ. กำลังอยู่ในระหว่างหารือกับนิติกร กทบ. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ข้อหายักยอก ทำงานเอกสาร และฉ้อโกง” นายเสวตกล่าว
ด้านนายนิเวช บุษบงค์ ประธานเครือข่าย กทบ.ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ธนาคารอมสินคนดังกล่าว ถือเป็นความผิดร้ายแรง เพราะประพฤติผิดต่อหน้าที่ ถึงแม้จะมีบางคนบนอกว่าเป็นเพียงแม่บ้านของธนาคาร แต่ไม่มีใครปักใจเชื่อ ในเมื่อเข้ามาทำหน้าที่เกี่ยวกับเงินกองทุน ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน ผู้บริหารธนาคารจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนี้ เข้ามารับผิดชอบในส่วนเงินกองทุนมานานหลายปีแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้อง ปปช. สตง. เข้ามาตรวจสอบด้วย เพราะชาวบ้านเชื่อทำเป็นขบวนการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศการประชุมแนวทางแก้ไขปัญหา เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ ยักยอกเงิน 38 กองทุน เกือบ 30 ล้านบาท โดยผู้บริหารระดับสูงของธนาคารออมสินขอนแก่นเข้ามารับฟังปัญหา ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมาก ซึ่งไม่พร้อมเปิดเผยข้อมูลผู้สื่อข่าว ขณะในส่วนของเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ ก็ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ และผู้จัดการสาขาเองก็ทราบว่าตอนนี้อยู่นอกพื้นที่
ทั้งนี้ หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง ประธานเครือข่าย กทบ. คณะกรรมการ กทบ.และตัวแทนสมาชิกกทบ.ทั้งหมดได้แยกย้ายกลับ และส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะพอใจในคำตอบของผู้บริหารระดับสูงวันนี้
