ที่ ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด สถานการณ์น้ำจากลำน้ำยัง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัยและพื้นที่การเกษตร และปศุสัตว์ ทางเข้าบ้านถูกตัดขาดต้องสัญจรทางเรือได้แก่ หลังจากมีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2561 นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับมอบหมายจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางตรวจติดตามพื้นที่ที่อยู่ระหว่างประสบอุทกภัยจากน้ำในลำน้ำยัง ไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวเกษตรกร บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ราษฎร คอกสัตว์ และถนนที่ถูกน้ำท่วมตัดเสส้นทางสัญจร ระหว่างหมู่บ้านต้องใช้การสัญจรทางเรือ
พร้อมกำกับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับตำบล ระดับอำเภอ โดยมีนายวัลลภ จินดาเงิน นายอำเภอโพนทอง ที่คอยดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้ทันท่วงที ทั้งนี้ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ของอำเภอโพนทอง ประกอบด้วย ตำบลโคกกกม่วง ได้แก่ บ้านโนนเชียงขวาง หมู่ 7 ผู้ประสบภัย 67 ครัวเรือน บ้านหนองบุ่งหมู่ 10 ผู้ประสบภัย 44 ครัวเรือน ทั้ง 2 หมู่บ้านอยู่ติดกัน มีระยะห่างกันประมาณ 100 เมตร ทั้ง 2 และถนนถูกตัดขาดน้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน กลางหมู่บ้านและใต้ถุนบ้านเรือนราษฎร ประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แล้วแต่ความลุ่มต่ำของพื้นที่ตั้งอาคารบ้านเรือน ส่วนบ้านดงกลาง หมู่บ้านใกล้เคียง น้ำท่วมที่อยู่อาศัย ประมาณ 20 หลังคาเรือน ยังเดินทางได้ แต่การเดินทางออกจากหมู่บ้านต้องสัญจรทางเรือ ระบบไฟฟ้ายังสามารถใช้งานได้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังจ่ายกระแสไฟตามปกติ ด้วยความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า รวมบ้านพักอาศัยที่ถูกกระทบทั้งสิ้น จำนวน 131 หลังคาเรือนนายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ทางจังหวัดได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุ ได้ทบทวนบทบาทหน้าที่ของผู้อำนวยการท้องถิ่น เพื่อการเตรียมอพยพคน การช่วยชีวิต การคมนาคมสัญจรแต่ละเส้นทาง ด้านระบบไฟฟ้า การรักษาพยาบาล และด้านการปศุสัตว์ เป็นต้น ณ เวลานี้เป็นจุดที่ลำน้ำยังเป็นจุดที่มีน้ำขึ้นสูงสุด ทางตอนเหนือของน้ำที่อยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ระดับน้ำเริ่มลดลง ซึ่งระดับน้ำในปีนี้ ยังมีปริมาณที่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20 เซนติเมตร จากการสอบถามพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ถือว่ายังมีขวัญและกำลังใจที่ดีมาก และทางจังหวัด ได้มีการวางแผนสามารถที่จะรองรับสถานการณ์น้ำได้ ส่วนความเสียหายทางด้านการเกษตร ก็จะมีการสำรวจ ตรวจสอบ หลังน้ำลด และดำเนินการช่วยเหลือ ตามระเบียบฯ ของราชการต่อไป หากไม่มีฝนตกมาเพิ่ม ทำให้ปริมาณน้ำไม่เพิ่มและน้ำในลำน้ำยังสามารถระบายลงลำน้ำชีได้ สถานการณ์ก็ไม่น่าเป็นห่วงแต่ประการใด
เหยี่ยวข่าว/รายงาน