รองผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ติดตามสถานการณ์น้ำจากลำน้ำยัง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร นาข้าว และปศุสัตว์ หลายตำบลในพื้นที่ อำเภอเสลภูมิ หลังจากมีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน บ้านนาวี ตำบลศรีวิลัย ได้รับผลกระทบมากที่สุด จำนวน 103 หลังคาเรือน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับมอบหมายจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างประสบอุทกภัยจากน้ำในลำน้ำยัง ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวเกษตรกร บ้านเรือนราษฎร คอกสัตว์ และถนนที่ถูกมวลน้ำเซาะจนขาดเนื่องจากท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาแซง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ในการให้การช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยได้ทันท่วงที โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายสุรพร หมายเจริญ นายอำเภอเสลภูมิ นายเกรียงไกร จิตธรรม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นายกเทศมนตรีตำบลนาแซง ผู้นำท้องถิ่น ตำบลใกล้เคียง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สำรวจพื้นที่ความเสียหาย และให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ในครั้งนี้ ในขณะนี้ หลายตำบลในพื้นที่อำเภอเสลภูมิ ได้ประสบอุทกภัยจากน้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนราษฎร นาข้าว คอกปศุสัตว์ และถนนถูกมวลน้ำยังไหลเซาะตัดขาด ทำให้ประชาชนไม่สามารถสันจรได้ จึงได้สำรวจพื้นที่ความเสียหายในครั้งนี้ โดยตำบลที่ประสบอุทกภัยประกอบด้วย ตำบลศรีวิลัย ตำบลวังหลวง ตำบลนาแซง และมวลน้ำจะไหลไปยังตำบลเขวา ตำบลภูเงิน ตำบลบึงเกลือ และตำบลเมืองไพร และไหลลงสู่สำน้ำชี จากการสำรวจ พื้นที่บ้านเรือนราษฎรที่ได้รับผลกระทบได้แก้แก่บ้านนาวี ตำบลศรีวิลัย จำนวน 103 หลังคาเรือน บ้านไข่นุ่น ตำบลนาแซง น้ำกำลังเอ่อเข้าท่วมถนนหลายสายในหมู่บ้าน โรงเรียนอีก 1 แห่ง น้ำท่วมไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ และบางจุดน้ำไหลเชี่ยวการสัญจรลำบาก และมีถนนที่ใช้สัญจรระหว่างหมูบ้านถูกมวลน้ำเซาะขาด เนื่องจากท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทันท่วงที นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ทางจังหวัดได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุ ได้ทบทวนบทบาทหน้าที่ของผู้อำนวยการท้องถิ่น พร้อมทีมงาน ได้แก่ การเตรียมอพยพคน การช่วยชีวิต การคมนาคมสัญจรแต่ละเส้นทาง ด้านระบบไฟฟ้า การรักษาพยาบาล และด้านการปศุสัตว์ เป็นต้น ณ เวลานี้เป็นจุดที่ลำน้ำยังเป็นจุดที่มีน้ำขึ้นสูงสุด ทางตอนเหนือของน้ำที่อยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ระดับน้ำเริ่มลดลง ซึ่งระดับน้ำในปีนี้ ยังมีปริมาณที่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา จากการสอบถามพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ถือว่ายังมีขวัญและกำลังใจที่ดีมาก และทางจังหวัด ได้มีการวางแผนสามารถที่จะรองรับสถารการณ์น้ำได้ ส่วนความเสียหายทางด้านการเกษตร ก็จะมีการสำรวจ ตรวจสอบ และดำเนินการช่วยเหลือ ตามระเบียบฯ ของกระทรวงการคลังต่อไป
เหยี่ยวข่าว/รายงาน