ศอ.ปกป.ภาค 3 รายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันประจำเดือน ก.พ.68 พบจุดความร้อนกว่า 10,390 จุดพร้อมสนับสนุนการใช้อากาศยาน.ดับไฟในพื้นที่เข้าถึงยาก
วันที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 กล่าวว่าจากการติดตามสถานการณ์จุดความร้อนและค่าคุณภาพอากาศของภาคเหนือตลอดเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า เกิดจุดความร้อนทั้งหมด 10,390 จุด เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับปี 2567 พบว่า ลดลงจำนวน 707 จุด คิดเป็นร้อยละ 6.37 โดยจุดตวามร้อนเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบมากในพื้นที่ จังหวัดตาก จำนวน 2,019 จุด , จังหวัดลำปาง 1,741 จุด และ จังหวัดเพชรบูรณ์ 1,055 จุด
สำหรับ
การตรวจคุณภาพอากาศ โดยเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา พบว่า PM 2.5 อยู่ระหว่าง 7.30 – 102.40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI อยู่ระหว่าง 12 – 228 ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดที่มีค่าคุณภาพอากาศสูงสุด ในระดับสีแดงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มี 6 จังหวัดในเดือนนี้ คือ จังหวัดแพร่ พะเยา ลำปาง น่าน พิษณุโลก และ จังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนเกิดฝนตกในภาคเหนือส่งผลให้คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ดี ถึง ดีมาก
สำหรับการปฏิบัติงานที่สำคัญในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนดับไฟป่าทั้งภาคพื้นดิน และปฏิบัติการบินทิ้งน้ำดับไฟป่าจากอากาศยาน จำนวน 34 เที่ยว ใช้น้ำกว่า 17,000 ลิตร โดยเฉพาะ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์บ้านโฮ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
ที่ทางเฮลิคอปเตอร์ KA-32 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ส่วนที่จังหวัดตากได้บูรณาการทิ้งน้ำดับไฟป่า บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จำนวน 32 เที่ยว ปริมาณน้ำ 96,000 ลิตร และ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ใช้อากาศยานดับไฟจำนวน 39 เที่ยว ปริมาณน้ำ 117,000 ลิตร รวมปฏิบัติการดังกล่าว จำนวน 71 เที่ยว ปริมาณน้ำ 213,000 ลิตร
ในขณะที่เครื่องบิน BT 67 กองทัพอากาศ บินโปรยน้ำและสารควบคุมไฟป่า เพื่อสร้างแนวกันไฟ 1 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 3,000 ลิตร พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก บินโปรยน้ำดับเพื่อควบคุมไฟป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาด อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ 1 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 3,500 ลิตร
ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ขึ้นบินดัดแปรสภาพอากาศเพื่อดูซับละระบายฝุ่นละออง จำนวน 169 เที่ยวบิน ในพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับส่วนการปฏิบัติ ชุดรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าไม้ , ชุดลาดตระเวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง และ กอ.รมน. 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ มีจำนวนกว่า 8,164 ครั้ง
อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือที่ว่าในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม นี้ จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอาจประสบกับปัญหาหมอกควันข้ามแดน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 จึงยกระดับการปฏิบัติงานให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้นโดยให้หน่วยทหารนำรถมาฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ชุมชนเมือง รวมทั้งมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงแต่ละจังหวัดประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนำรถหุ่นยนต์พ่นละอองน้ำแรงดันสูงเพื่อลดการเกิดฝุ่นที่จะมีเข้ามาในช่วงเดือนมีนาคมนี้.