28 กุมภาพันธ์ 68 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการกวาดล้างจับกุมผู้ค้าและผู้เสพบุหรี่ไฟฟ้าและจำหน่ายน้ำกระท่อมผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จนมีผลการจับกุมจำนวนมาก ล่าสุด นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางเป็นประธานในการปล่อยแถวระดมกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าและแหล่งผลิตน้ำกระท่อมผิดกฎหมาย โดยจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ทั้ง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จนท.สรรพสามิตจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด และศุลกากรจังหวัด รวมกว่า 150 นาย ร่วมกันออกปราบปรามจับกุมผู้ค้าและผู้เสพบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ อย่างจริงจัง เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลหลังจากที่นายกรัฐมนตรีออกมาขีดเส้นต้องหมดไปจากประเทศไทยภายใน 30 วัน
ด้าน นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่าในส่วนของจังหวัดสมุทรปราการ ที่ผ่านมามีการจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดสมุทรปราการได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และปัจจุบันเริ่มพบว่ามีการแอบลักรอบจำหน่ายมากขึ้น จนทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งถือว่าเป็นภัยต่อเยาวชน จึงมีการจัดตั้งทีมเฉพาะขึ้นมาเพื่อปราบปรามอย่างจริงจัง พร้อมทั้งประสานให้ทางศึกษาธิการจังหวัดไปบูรณาการกับสถานศึกษา ตามโรงเรียนต่างๆ ในตรวจตราและคอยสอดส่องดูแลนักเรียนในสังกัด พร้อมทั้งประสานผู้นำชุมชนเฝ้าระวัง ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่าซึ่งนอกจากการปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่องปัจจุบันจะมีชุดทำงานตรวจสอบการลักลอบการจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ หากพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ยังลักลอบจำหน่ายอยู่ขอให้เลิกโดยเด็ดขาดหากพบจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 28 ก.พ. 68 ) ผู้สื่อข่าวรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมกับฝ่ายสืบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ นำกำลังบุกไปที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านแบริ่ง ในตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากสืบทราบว่าเป็นสถานที่ซุกซ่อนเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ จำนวนมาก โดยมีการปิดประตูด้านหน้าและใส่กุญแจไว้ ตำรวจจึงตัดกุญแจและบุกเข้าไปตรวจสอบ พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่หลายพันชิ้นซุกซ่อนอยู่ในรูปแบบของโกดังสินค้าขนาดเล็ก ส่วนผู้ดูแลและเจ้าของไหวตัวทันก่อนจะเจ้าหน้าที่จะเข้าถึง ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดคาดว่าหลายหมื่นชิ้น ส่งพนักงานสอบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อสืบหาเจ้าของและผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ. ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะหัวหน้าทีม เปิดเผยว่าหลังจากที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจและปล่อยแถวระดมกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าทั้งจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นชุดเฉพาะกิจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีแหล่งซุกซ่อนในสถานที่แห่งนี้ จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และบุกเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีบุคคลใดอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่พบของกลางจำนวนมากจึงยึดไว้ตรวจสอบและขยายผลเจ้าของและผู้ร่วมขบวนการ
บัณฑิต ชวาลา รายงาน
